หลังจากที่มีการพัฒนามาหลายปีตัวอัปเดต Taproot ที่หลายคนรอคอยมานานก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ โดยการอัปเกรด Taproot ของ Bitcoin จะช่วยเพิ่มความประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม, เพิ่มความเป็นส่วนตัว และเปิดตัวแพลตฟอร์มสัญญา Smart contract บนเครือข่าย ซึ่งจะช่วยให้ Bitcoin ปักธงก้าวเข้าสู่บนเวทีการแข่งขัน DeFi ร่วมกับเครือข่ายอื่น ๆ แพลตฟอร์มสัญญา Smart contract ของ Bitcoin หลังจากได้รับการสนับสนุนจากนักขุดและผู้ที่มีส่วนรวมบนเครือข่าย ในที่สุด Bitcoin สกุลเงินดิจิตอลเบอร์หนึ่งของโลกก็พร้อมแล้วสำหรับอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสี่ปี และ Taproot ก็เป็นหนึ่งในการอัปเกรดที่ผู้คนคาดหวังมากที่สุดสำหรับเครือข่าย Bitcoin นับตั้งแต่เปิดตัวการอัปเกรด SegWit ในปี 2017 การอัปเกรด Taproot จะมาพร้อมกับ การอัปเดตลายเซ็น Schnorr, การเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย รวมถึงฟีเจอร์การปรับขนาดให้เหมาะสมกับเครือข่าย และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ การอัปเกรด Taproot จะช่วยปลดล็อกศักยภาพให้กับบล็อคเชนเพื่อรองรับสัญญา Smart contract ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยพลิกเกมให้กับเครือข่าย Bitcoin ในการสนับสนุนระบบนิเวศ DeFi ที่เฟื่องฟู เป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้โปรเจกต์ DeFi ส่วนใหญ่ล้วนถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายของ Ethereum เนื่องจากปัจจุบันเครือข่าย Bitcoin นั้นยังไม่พร้อมที่จะรองรับความต้องการของนักพัฒนา DApp ที่จะนำพา Defi มาสู่เครือข่ายได้ แต่ด้วยการเปิดใช้งาน RSK ที่กำลังจะมาถึง มันจะเป็นปลดล็อกเครือข่ายบล็อกเชนเพื่อรองรับสัญญา Smart Conntract ซึ่งโปรเจกต์ต่าง ๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Bitcoin สำหรับการสร้างระบบนิเวศ Defi ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศของ RSK ได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นถึงความจริงที่ว่า มีความต้องการเทคโนโลยี DeFi บนเครือข่าย Bitcoin และในที่สุดสถานะ Bitcoin ก็ถูกเปลี่ยนจากสินทรัพย์เก็งกำไรไปเป็นสกุลเงินที่ใช้งานได้จริง นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ทั้งนี้แพลตฟอร์ม RSK จะช่วยเพิ่มมูลค่าและการทำงานให้กับ Bitcoin อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการรองรับสัญญา Smart contract, การชำระเงินแบบทันที และความสามารถในการปรับขนาดในระดับสูงขึ้นอีกด้วย
กดอ่านข่าว การอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดของ Bitcoin “Taproot” เตรียมมาพร้อมกับการทำสัญญา Smart contract ต่อที่ Siam Blockchain