Bloomberg รายงานว่าสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ได้ปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อต่อต้านการแฮ็ก โดยหน่วยงานตั้งใจที่จะแฮ็กผู้กระทำความผิด ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลและขับไล่ผู้โจมตีออกระหว่างทำการโจมตี หน่วยงาน FBI กำลังดำเนินการเพื่อให้ได้รับอำนาจในการเข้าถึงเครือข่ายเหล่านี้จากระยะไกล และอำนาจในการปิดกั้นจุดเข้าใช้จากแฮ็กเกอร์ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นประเด็นสำคัญเนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ตั้งใจที่จะกำจัดออกไป ในรายงานดังกล่าวยังได้อ้างอิงถึงเหตุการณ์ Colonial Pipeline ที่กลุ่ม DarkSide ได้ทำการโจมตีเรียกค่าไถ่บริษัทที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งค่าไถ่ส่วนใหญ่ได้ถูกกู้คืนมาได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่กำลังเพิ่มระบบการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้หลาย ๆ หน่วยงานยังพูดถึงบทบาทของคริปโตเคอร์เรนซี ที่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามามีส่วนสนับสนุนการโจมตีนั้น เนื่องจากความยากในการติดตามธุรกรรม ข่าวของหน่วยงานต่าง ๆ ที่กำลังให้ความสำคัญเรื่องอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต การฟอกเงิน และการระดมทุนของกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เกิดขึ้นพร้อมกับการหารือด้านกฎระเบียบของคริปโต เนื่องจากรัฐบาลหลายแห่งตั้งใจที่จะปกป้องนักลงทุนและป้องกันอาชญากรรม คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐมอลตาเกี่ยวกับการกำกับดูแลที่ไม่แน่นหนา โดยการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการควบคุมตลาดคริปโตระดับโลก ในทางกลับกันสหรัฐฯ ได้มุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองนักลงทุนและป้องกันการครอบงำตลาด เช่น การที่ก.ล.ต. ยื่นฟ้องโครงการที่อาจละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ แต่ด้วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่กำลังมากขึ้น บางทีทางการสหรัฐฯ อาจกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในพื้นที่ คริปโต
กดอ่านข่าว FBI สนับสนุนกลยุทธ์ต่อต้านธุรกรรม Cryptocurrency ที่ผิดกฎหมายและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ต่อที่ Siam Blockchain