เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ กองทุน UNICEF Venture Fund จึงได้จัดเตรียมเงินลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนอีก 7 รายใน 6 ประเทศ ได้แก่ เคนยา อาร์เจนตินา อินเดีย เม็กซิโก รวันดา และเนปาล ตามประกาศของยูนิเซฟในวันนี้ บริษัททั้ง 7 แห่ง ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากการส่งผลงานกว่า 450 รายการใน 77 ประเทศ จะได้รับเงินทุนสนับสนุนสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 5 ใน 7 ของบริษัทเหล่านั้นเลือกที่จะรับเงินทุนเป็น Ethereum และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ บริษัทสตาร์ทอัพทั้ง 5 แห่งล้วนแต่มีผู้หญิงเป็นผู้นำทีม กองทุน UNICEF ได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้คนประมาณ1.7 พันล้านคนทั่วโลกยังคง “ไม่มีบัญชีธนาคาร” ของตัวเองและไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐานได้ เช่น บัญชีธนาคาร อ้างอิงตามตัวเลขล่าสุดของธนาคารโลก บริษัทสตาร์ทอัพ Xcapit ของอาร์เจนตินา, GovBlocks ของอินเดีย, BX Smart Labs ของเม็กซิโก, Leaf Global Fintech ของรวันดา, Rumsan ของเนปาลและ Grassroots Economics ของเคนยา และ KotaniPay ต่างก็กำลังทำงานเกี่ยวกับโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ทั่วถึงมากขึ้น นับตั้งแต่การเข้าถึงกระบวนการชำระเงิน การโอนเงิน สกุลเงินของชุมชน เงินกู้ และโอกาสในการลงทุนสำหรับชุมชนที่ด้อยโอกาส ตลอดจนเครื่องมือในการตัดสินใจแบบกระจายอำนาจ กองทุนคริปโตของ UNICEF หรือ UNICEF CryptoFund นั้นได้ลงทุนในโปรเจกต์สตาร์ทอัพในระยะตั้งไข่ทั่วโลกเพื่อสนับสนุนโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมให้กับท้องถิ่นและทั่วโลก นับตั้งแต่ปี 2016 UNICEF’s CryptoFund เป็นกองทุนรวมของ Bitcoin และ Ethereum และเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนด้านนวัตกรรมของ UNICEF ที่อนุญาตให้ UNICEF สามารถโอน-รับ ถือครองและเบิกสกุลเงินดิจิทัลได้ตลอดเวลา Blockchain นำมาซึ่งนวัตกรรมทางการเงิน “การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กและผู้คนทั่วโลก ชีวิตของพวกเขาได้หยุดชะงักลงอย่างมีนัยสำคัญ
กดอ่านข่าว UNICEF เตรียมลงทุนสตาร์ทอัพ Blockchain ด้านการเงินมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ต่อที่ Siam Blockchain