💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

Scalper หรือ Scalping คืออะไร

เผยแพร่ 08/04/2566 13:48
อัพเดท 08/04/2566 17:10
© Reuters. Scalper หรือ Scalping คืออะไร

BeInCrypto - Scalper หรือ Scalping เป็นการเทรดที่มีลักษณะสั้นที่สุดเมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่นๆ ในบางครั้งการเปิดสถานะและปิดสถานะการเทรดอาจใช้เวลาไม่ถึงนาที และในหนึ่งวันอาจมีการเข้าเทรดหลายๆ ครั้งโดยเฉพาะกับตลาดคริปโตที่ผันผวนสูง

กลยุทธ์การเทรดนี้ จำเป็นต้องมีทักษะที่สูงอย่างรอบด้าน ทั้งในการวิเคราะห์ราคาเชิงเทคนิค การตัดสินใจ การคุมความเสี่ยง และการพิจารณาเลือกสินทรัพย์และแพลตฟอร์มที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว กลยุทธ์นี้จะถูกใช้ในการเทรด Future บนตลาดคริปโตเคอเรนซี่และ Forex

Table of Contents

  • ทำความรู้จักกับการเทรดแบบ Scalping
  • เริ่มเทรด Scalping อย่างไร และมันเหมาะกับใคร
  • ข้อควรระวังและความเสี่ยง
  • ความแตกต่างระหว่าง Scalping และ Day Trading

ทำความรู้จักกับการเทรดแบบ Scalping

การเทรดแบบ Scalping คือการมองหาโอกาสในการทำกำไรผ่านการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย และความผันผวนในตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

ลักษณะในการทำกำไร คือ การเก็บเล็กผสมน้อยหลายๆ ครั้ง จนเป็นกำไรก้อนใหญ่ แต่กลยุทธ์นี้ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดระดับเริ่มต้น เพราะต้องอาศัยประสบการณ์รอบด้านเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ที่ชำนาญการเทรดในลักษณะอื่นอย่าง swing trading, day trading และ value investor ก็อาจจะล้มเหลวในการเทรดลักษณะนี้

เริ่มเทรด Scalping อย่างไร และมันเหมาะกับใคร

บุคคลที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้ ต้องมีคุณสมบัติและทักษะต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • เวลา

นักเทรดต้องมีเวลาในการเฝ้าหน้าจอ เพื่อมองหาเสี้ยววินาทีที่โอกาสในการทำกำไรจะเกิดขึ้น โดยมีความเสี่ยงต่ำที่สุด นั่นหมายความว่า นักเทรดต้องมีการจัดการเวลาที่ดีในชีวิต หรือหากลยุทธ์เช่นการตั้ง Alert ต่างๆ เพื่อทุ่นเวลาที่จะต้องเฝ้าจอลง

หากคุณไม่สามารถบริหารจัดการ เวลาชีวิตกับเวลาเฝ้าหน้าจอได้ มันอาจทำให้คุณภาพชีวิตคุณต่ำลง เสียสุขภาพ และมีความเครียดสูงตลอดเวลา

อีกทางเลือกหนึ่งที่จะกำจัดปัญหาด้านเวลาไปคือ Algorithmic Trading หรือ การออกแบบระบบเทรดด้วยบอท หากคุณมีความชำนาญด้าน Programing และการเทรดขั้นสูง ศัพท์เทคนิคเรียกการเทรดที่ไม่ต้องอาศัยการตัดสินใจของมนุษย์นี้ว่า Non-discretionary trading

การใช้คอมพิวเตอร์ในการเทรดลักษณะนี้จะเหมาะกับคุณมากที่สุด เพราะนอกจากจะคุณจะไม่ต้องเฝ้าจอแล้ว คุณก็ไม่ต้องเครียดจากความกดดันที่จะต้องตัดสินใจในการทำอะไรต่างๆ ในเวลาไม่กี่วินาทีอีกด้วย -การวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เพราะคุณต้องออกแบบกลยุทธ์ในการเข้าซื้อหรือขาย ที่เหมาะสมในกราฟการเคลื่อนไหวของราคาที่ระดับนาที นักเทรดต้องกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ล่วงหน้า

สิ่งที่นักเทรดระยะสั้นมองหา คือ กลยุทธ์ที่มีอัตราการชนะที่สูง แม้จะต้องแลกด้วยกำไรที่น้อยลง แตกต่างจาก Trend Following ของนักเทรดแบบ Swing Trade ที่อาจมีอัตราการชนะที่ต่ำราว 30-40% แต่เวลาได้กำไร จะสามารถทำกำไรได้ก้อนโต

  • การตัดสินใจที่ฉับไว และ มีวินัยสูง

นักเทรดต้องตัดสินใจภายในชั่ววินาที เพราะในกราฟระดับนาที มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แต่นอกจากการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว วินัยคือสิ่งสำคัญทีสุด ที่จะทำให้คุณไม่ล้มหายตายจากจากตลาดไปเสียก่อนจะทำกำไรได้

การ Cut loss คือหัวใจ เพราะเมื่อคุณซื้อขายเพื่อทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นบนตลาด Future คุณอาจใช้อัตราทด (leverage) มาเป็นตัวช่วย ในการทำกำไร ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอัตราทดที่สูงกว่าการเทรดลักษณะอื่น

หากคุณวางแผนการคุมความเสี่ยงไว้แล้วและไม่ทำตาม อัตราทดนี้จะหันมาทำร้ายคุณและเสียหายมากกว่าที่วางแผนไว้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที เช่น หากคุณเลือก X10 นั่นหมายความว่าคุณกำลังรับความเสี่ยงมากขึ้นถึง 10 เท่า

ข้อควรระวังและความเสี่ยง

ความเสี่ยงในการเทรด Scalping นั้นสูงมากที่สุดในบรรดากลยุทธ์ทั้งหมด แน่นอนว่าข้อดีของมันคือ คุณสามารถเห็นผลกำไรอย่างต่อเนื่องในทุกๆ สภาพตลาดไม่ว่าจะตลาดกระทิงหรือหมี และมีความเสี่ยงด้านเวลาที่ต่ำ (time-exposure) เพราะการถือครองสถานะมีเวลาไม่นานนัก แต่ความเสี่ยงที่สูง พร้อมข้อความระวังก็ตามมาเช่นกัน

  • สภาพคล่องในตลาด

การเทรดระยะสั้นมากๆ นี้ จำเป็นต้องเลือกแพลตฟอร์มและคู่สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงมากๆ หากสภาพคล่องต่ำหมายความว่าส่วนต่างของราคา bid และ offer จะสูง หรือแม้แต่กำแพงราคาที่บางเกินไป

บางครั้งสภาพคล่องที่ต่ำจะทำให้เกิด slippage ได้ ทำให้ความเสี่ยงของคุณเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะบ่อยครั้งจะเป็นความเสี่ยงที่คุณไม่ได้คำนวณไว้ และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Algorithmic Trading ที่แสดงผลกำไรดีในช่วงการทดสอบ กลับล้มเหลวและขาดทุนในการซื้อขายจริง

ในขณะเดียวกัน คุณกลับต้องการคู่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง เพื่อหาโอกาสในการทำกำไร นั่นหมายความว่า คุณจะต้องพิจารณาชั่งน้ำหนักให้ดี ว่า ความผันผวนกับสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ในการเข้าเทรด

  • ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียม เป็นอีกหนึ่งศัตรูที่บางคนอาจมองข้ามไป เพราะมันคือต้นทุนประเภทหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้แม้แต่ตลาด spot ซื้อขายคริปโต ไม่เหมาะกับการเทรดประเภทนี้ เช่น บน Binance ค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น 0.1% ขาซื้อและขาย นั่นหมายความว่า ตลาดจะต้องเคลื่อนไหวมากกว่า 0.1% เป็นอย่างน้อย เพื่อครอบคลุมเพียงค่าธรรมเนียมขาซื้อเพียงเท่านั้น

ตัวเลือกที่เหมาะสมจึงกลายเป็นตลาด Future ที่ค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น 0.02 – 0.04% เพียงเท่านั้น ดังนั้นต้นทุนในการซื้อขายระยะสั้นจึงต่ำกว่าการเทรดในตลาด Spot เป็นอย่างมาก เพราะมีอัตราทดและการ Short สำหรับการทำกำไรเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมที่ต่ำจึงสามารถทำให้คุณทำกำไรได้ แม้สินทรัพย์จะเคลื่อนไหวเพียง 0.1% ก็ตาม

ความแตกต่างระหว่าง Scalping และ Day Trading

ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Day Trading กับ Scalping คือ ช่วง Time Frame หรือกราฟที่ใช้ Day Trading แม้จะจบในวันแต่มันมีการถือครองสถานะที่นานกว่า อาจใช้กราฟ 5 นาที – 1 ชั่วโมงในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายคริปโตและบางครั้งคุณอาจจะต้องถือสถานะข้ามวันก็เป็นได้

ส่วน Scalper จะเลือกใช้กราฟตั้งแต่ 1 นาที ในการตัดสินใจ หรือบางรายอาจเลือกใช้กราฟระดับวินาทีก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับ charting platform ที่พวกเขาเลือกใช้ ระยะเวลาการถือครองสถานะจึงสั้นมากๆ และส่วนมากแทบจะไม่มีการถือครองข้ามคืนเลยด้วยซ้ำ แม้จะสามารถตั้ง SL และ TP ทิ้งไว้ได้ก็ตาม บางครั้งสถานะอาจเปิดและปิดในเวลาไม่ถึง 5 นาที

นักเทรดมืออาชีพอาจมีการเปิดและปิด Postion หลายสิบหรือหลายร้อย Position ในแต่ละวัน หากคุณคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับการต้องตัดสินใจและความคุมความกดดันที่ถาโถมอย่างต่อเนื่องไม่ได้ การเทรดแบบ Day Trading อาจจะจะเหมาะกับคุณมากกว่า

จากการศึกษาวิจัยของ The Financial Conduct Authority (FCA) ที่ศึกษานักลงทุน 517 ราย ซึ่งผู้เข้าร่วม 38% ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เข้าเทรดของพวกเขาไม่ได้มาจากความเป็นเหตุเป็นผล แต่เกิดจากความตื่นเต้นทางอารมณ์ในการซื้อขาย การศึกษานี้ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับนักเทรด คือความมั่นใจที่มากเกินไป การขาดทักษะต่างๆ และการขาดวินัยในการควบคุมความเสี่ยงที่ดี

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก BeInCrypto

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย