BeInCrypto - เมื่อวันที่ 31 มีนาคม Bittrex หนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศปิดการดำเนินงานในสหรัฐเนื่องจาก “สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบและเศรษฐกิจ” ที่ไม่เป็นมิตรในปัจจุบัน
ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ เงินของผู้ใช้จะยังคงปลอดภัยและพร้อมสำหรับการถอนได้ตลอดเวลาในช่วงที่การดำเนินการในสหรัฐฯ ยุติลง การประกาศนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้านอกประเทศที่ใช้ Bittrex Global การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ สืบเนื่องมากจากการบังคับใช้กฎหมายต่อ Kraken, Coinbase (NASDAQ:COIN), และ Binance
Bittrex มองกฎหมาย US ทำให้การแข่งขันไม่เท่าเทียม
Richie Lai ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรด กล่าวว่าสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบของสหรัฐอเมริกาได้สร้างแนวทางการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งท้ายที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท แม้ว่าจะเปิดดำเนินการในประเทศมานานกว่า 9 ปีก็ตาม
“9 ปีผ่านไป ระบบนิเวศของคริปโตเคอเรนซี่นั้นแตกต่างออกไปมาก ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบมักไม่ชัดเจนและบังคับใช้โดยไม่มีการอภิปรายหรือแจ้งข้อมูลที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกัน”
เขาเสริมว่าเนื่องจากอุปสรรคเหล่านี้ การดำเนินงานในประเทศจึง “ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป” ดังนั้น คณะกรรมการจึงตัดสินใจปิดการดำเนินการในวันที่ 30 เมษายน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ก่อนวันดังกล่าว
“ดังที่ฉันได้กล่าวไว้ข้างต้น เงินทุนของลูกค้าทั้งหมดจะปลอดภัย ที่นี่ และพร้อมให้คุณเรียกคืน สำหรับผู้ใช้ที่ตรงตามข้อกำหนดของ KYC เราจะอนุญาตให้ซื้อขายได้จนถึงวันที่ 14 เมษายน 2023 และคุณควรถอนเงินทั้งหมดของคุณภายในวันที่ 30 เมษายน 2023”
เกิดอะไรขึ้นกับการกำกับดูแลในสหรัฐ
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแล เริ่มใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้น แต่กฎระเบียบก็ยังไม่ชัดเจนทำให้หลายๆ บริษัทต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
สิ่งนี้ทำให้กระดานแลกเปลี่ยนบางส่วนอยู่ในสถานะที่พวกเขาต้องเลือกระหว่างการปิดหรือย้ายสำนักงานใหญ่ออกจากสหรัฐอเมริกาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและปัญหาที่ไม่จำเป็น
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 22 มีนาคม SEC ได้ออกประกาศคำเตือน ต่อ Coinbase โดยระบุถึงการดำเนินการที่อาจเกิดขึ้นกับกระดานแลกเปลี่ยนสำหรับ “การละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ที่เป็นไปได้” ที่ยึดโยงอยู่กับบริการ Staking และกระเป๋าเงินดิจิทัล
ในการตอบโต้ Daniel Seifert รองประธานและผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของ Coinbase Europe แสดงความคิดเห็นว่า “สหรัฐฯ ได้ทิ้งช่องว่างไว้ให้ประเทศอื่น ๆ ที่กระตือรือร้นที่จะเติมเต็มช่องว่างเหล่านนั้น” กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากหน่วยงานกำกับดูแลยังคงจ้องโจมตีกระดานแลกเปลี่ยนในประเทศ พวกเขาจะย้ายไปยังประเทศอื่น
ตามรายงานล่าสุด Binance เป็นกระดานแลกเปลี่ยนล่าสุดที่ถูกโจมตีโดยหน่วยงานกำกับดูแล หลังจากการฟ้องร้องโดย CFTC ต่อ CEO, Changpeng Zhao และ Binance.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม cryptocurrency ระดับโลก แม้จะไม่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทก็ถูกฟ้องร้อง
สิ่งนี้ต้องนำมาพิจารณาเนื่องจาก Gary Gensler หัวหน้า SEC คนปัจจุบันได้กล่าวแล้วว่าตามเหตุผลของเขา ธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบน Ethereum blockchain นั้นอยู่ในเขตอำนาจศาลของสหรัฐอเมริกา
เขาเสริมว่า cryptocurrencies ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ซึ่งหากนำมาใช้เป็นเกณฑ์ทั่วไปท่ามกลางกฎระเบียบต่างๆ อาจเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรม crypto ของประเทศ