💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ซีอีโอแห่ง JPMorgan เรียก Bitcoin ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่

เผยแพร่ 24/01/2566 17:03
© Reuters.  ซีอีโอแห่ง JPMorgan เรียก Bitcoin ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่

BeInCrypto - Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase ปลด Bitcoin (อีกครั้ง) จากการประชุมสุดยอดประจําปีของ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ทาง Dimon กล่าวว่า “Bitcoin ถือเป็นการฉ้อโกงที่ดันกลายเป็นที่นิยม มันเป็นเรื่องหลอกลวง” โดยแถลงความชัดเจนอีกครั้งว่าผู้บริหารระดับสูงไม่สนใจ Bitcoin นอกจากนี้ Dimon ยังตั้งคําถามถึงมูลค่าของสินทรัพย์ถึง 21 ล้านของทางแพลตฟอร์ม

ซาโตชิจะเยาะเย้ยผู้ถือครอง Bitcoin

Jamie Dimin กล่าวว่า “คุณรู้ได้อย่างไรว่ามันจะหยุดที่ 21 ล้าน ทุกคนบอกว่าบางทีมันอาจจะไปถึง 21 ล้านและภาพของซาโตชิกําลังจะขึ้นมาและหัวเราะเยาะคุณทุกคน”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dimon วิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin กล่าวคือ ซีอีโอรายนี้ประกาศในปี 2021 ว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า Bitcoin นั้นไร้ค่า” ในปี 2018 Dimon แย้งว่า “ฉันไม่ต้องการเป็นตัวตายตัวแทนต่อต้าน Bitcoin ฉันไม่ได้ให้ค่ากับมันขนาดนั้น เข้าใจตรงกันนะ” ในเดือนกันยายน 2017 เขากล่าวว่า Bitcoin ถือเป็นเรื่องหลอกลวง

ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ Fox Business Network หัวหน้าของ Wall Street เรียกขานคริปโตเคอเรนซีว่าเป็น “แชร์ลูกโซ่แบบกระจายอํานาจ” ที่ส่งผลร้ายต่อคนจํานวนมาก เขากล่าวว่า “ผมเรียกมันว่าการแชร์ลูกโซ่แบบกระจายอํานาจเพราะผู้คนต่างหันมามุ่งสนใจมันมากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาจะเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เงินที่เสียไปเพราะคริปโตเคอเรนซี ทั้งสิ่งที่ผู้คนรู้และไม่รู้”

เขายังให้เหตุผลว่าเขาไม่แปลกใจกับความล้มเหลวของ FTX

ประวัติความเป็นมาของการวิจารณ์ Bitcoin

เขาเรียก Bitcoin ว่าเป็น “สินทรัพย์เพื่อสะสมทุนอันยอดแย่” ในปี 2014 เขาทํานายจุดจบของคริปโตเคอเรนซีในอีกหนึ่งปีถัดมา แต่ Jamie Dimon เองยังตระหนักถึงคุณค่าของเทคโนโลยี

เขากล่าวกับ CNBC ว่า “Blockchain เป็นระบบบัญชีแยกประเภทเทคโนโลยีที่เราใช้เพื่อย้ายข้อมูล เราได้ใช้มันเพื่อทํารีโปข้ามคืน และรีโประหว่างวัน … นั่นคือบัญชีแยกประเภทสำหรับเทคโนโลยี ทุกสิ่งที่เราคิดว่าจะปรับใช้ได้”

ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นคือการที่ JP Morgan ได้ไล่ล่าการลงทุนใน Blockchain และคริปโตเคอเรนซีอย่างแข็งขัน ในขณะที่เขาเองดูหมิ่นภาคธุรกิจมานานหลายปี Daniel Pinto ประธาน JP Morgan ยังได้มองข้ามความสําคัญของเงินดิจิทัลในฐานะประเภทสินทรัพย์เฉพาะกลุ่มในขณะที่ทําธุรกิจตามปกติ

เมื่อต้นเดือนนี้JP Morganได้เผยแพร่รายงานซึ่งตรวจสอบตลาดคริปโตของสหรัฐฯ การทำเช่นนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สําคัญเนื่องจาก JPM เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนําของสหรัฐฯ

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก BeInCrypto

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย