ชาร์ลอตต์ นอร์ทแคโรไลนา - Berry Global Group, Inc. (NYSE:BERY) และ Glatfelter Corporation (NYSE:GLT) ได้ประกาศการสร้าง Magnera ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรมวัสดุพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง Magnera ถูกกําหนดให้เป็นผู้นําระดับโลกโดยการรวมธุรกิจ Nonwovens and Films Global ด้านสุขภาพ สุขอนามัย และความเชี่ยวชาญพิเศษของ Berry เข้ากับ Glatfelter
Curt Begle ประธานแผนกสุขอนามัยและความเชี่ยวชาญพิเศษของ Berry คนปัจจุบันและซีอีโอในอนาคตของ Magnera กล่าวว่าแบรนด์นี้ทุ่มเทเพื่อ "ทําให้โลกดีขึ้นด้วยความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ทําให้เป็นจริง" เขาเน้นย้ําถึงแรงผลักดันของบริษัทในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาโซลูชันวัสดุเพื่อตอบสนองความท้าทายในชีวิตประจําวันของผู้ใช้ปลายทาง
Magnera จะรวบรวมโรงงานผลิตทั่วโลก 46 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดหาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Tarun Manroa รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Berry และ COO ในอนาคตของ Magnera แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับศักยภาพของแบรนด์ใหม่ในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและผลิตภัณฑ์แบบกําหนดเอง
การควบรวมกิจการคาดว่าจะนําเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทที่ควบรวมกิจการในการให้บริการลูกค้าในระดับที่ใหญ่ขึ้น พอร์ตโฟลิโอที่ขยายออกไปคาดว่าจะทําให้ Magnera แตกต่างในตลาด โดยส่งมอบคุณค่าและนวัตกรรมให้กับลูกค้า
Magnera จะก่อตั้งขึ้นจากการแยกกิจการและการควบรวมกิจการของ Berry กับ Glatfelter โดยให้บริการลูกค้าหลายพันรายทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงส่วนประกอบสําหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัย ชุดป้องกัน ทิชชู่เปียก และวัสดุสําหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
ธุรกรรมคาดว่าจะปิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ Glatfelter และความพึงพอใจของเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม แบรนด์ใหม่จะเริ่มดําเนินการภายใต้ชื่อและตราสินค้าของ Magnera ทันทีหลังจากปิดการควบรวมกิจการที่เสนอ
Berry Global Group และ Glatfelter Corporation ได้ประกาศการสร้าง Magnera ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรมวัสดุพิเศษ นี่เป็นขั้นตอนสําคัญในกระบวนการควบรวมกิจการ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตทั่วโลก 46 แห่งเพื่อจัดหาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การควบรวมกิจการซึ่งคาดว่าจะปิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 จะช่วยเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทในตลาดที่มีการเติบโตสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยดูดซับ เครื่องแต่งกายป้องกัน และวัสดุก่อสร้างพิเศษ
เป้าหมายหุ้นของ Berry Global Group ได้รับการยกระดับโดยทั้ง Mizuho และ BofA Securities โดยพิจารณาจากการเติบโตของปริมาณที่คาดการณ์ไว้และความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน บริษัทคาดว่าจะรายงานตัวเลขไตรมาสเดือนมิถุนายนที่สอดคล้องกับฉันทามติของ Bloomberg โดยประมาณที่ 546 ล้านดอลลาร์ใน EBITDA และ EPS ที่ 2.07 ดอลลาร์
Berry Global ได้ยืนยันแนวทางปีงบประมาณ 2024 อีกครั้ง และมุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนมูลค่าของผู้ถือหุ้นผ่านการขายหุ้นเชิงกลยุทธ์และการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอ บริษัทได้ดําเนินการขายกิจการสองครั้งแล้วโดยคาดว่าจะมีรายได้จากเงินสดมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ภายในปีหน้า นี่คือการพัฒนาล่าสุดในการดําเนินงานของ Berry Global Group
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ในแง่ของการประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการควบรวมกิจการของ Berry Global Group (NYSE:BERY) กับ Glatfelter Corporation เพื่อก่อตั้ง Magnera การพิจารณาสถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของ Berry อย่างใกล้ชิดจะเผยให้เห็นตัวชี้วัดที่น่าสนใจและเคล็ดลับ InvestingPro ที่นักลงทุนอาจสนใจ
ข้อมูล InvestingPro เน้นย้ําถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ Berry ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 7.3 พันล้านดอลลาร์ และอัตราส่วนราคา/กําไร (P/E) อยู่ที่ 14.77 อัตราส่วน P/E ซึ่งปรับในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ปรับเพิ่มเติมเป็น 11.32 ซึ่งบ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต รายได้ของบริษัทแม้ว่าจะลดลง 9.26% ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ยังคงอยู่ที่ 12.24 พันล้านดอลลาร์
ในแง่ของผลการดําเนินงาน หุ้นของ Berry ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นด้วยผลตอบแทนรวมของราคา 1 เดือนที่ 5.16% และผลตอบแทน 3 เดือนที่ 12.61% นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้นถึงระยะกลาง นอกจากนี้ หุ้นยังซื้อขายที่ 91.21% ของระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าใกล้ถึงมูลค่าตลาดสูงสุดในปีที่แล้ว
เคล็ดลับ InvestingPro ให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของ Berry และศักยภาพสําหรับผลตอบแทนของนักลงทุน กลยุทธ์การซื้อหุ้นคืนเชิงรุกของฝ่ายบริหารเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นในมูลค่าของบริษัท นอกจากนี้ Berry ยังมีผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนนอกเหนือจากการแข็งค่าของราคาหุ้น การประเมินมูลค่ายังบ่งบอกถึงผลตอบแทนกระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกสําหรับการเติบโตในอนาคตและความยืดหยุ่นทางการเงิน
สําหรับนักลงทุนที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมและเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติม พวกเขาสามารถสํารวจเคล็ดลับเพิ่มเติม 5 ข้อได้ที่หน้าเฉพาะของ InvestingPro สําหรับ Berry Global Group ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ที่: https://www.investing.com/pro/BERY สําหรับผู้ที่สนใจสมัครสมาชิก InvestingPro เพื่อการวิเคราะห์การลงทุนที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ให้ใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักปี
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน