เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Truist Securities เริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับหุ้นของ SM Energy (NYSE:SM) โดยกําหนดอันดับการถือครองหุ้นและตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ 51.00 ดอลลาร์ การวิเคราะห์ของบริษัทของบริษัทเน้นย้ําถึงการดําเนินงานในภูมิภาคผลิตน้ํามันที่สําคัญสองแห่ง ได้แก่ Midland Basin และ Eagle Ford Shale การผลิตของ SM Energy ค่อนข้างสมดุลระหว่างพื้นที่เหล่านี้ โดยประมาณ 50% ของการผลิตทั้งหมดมาจากแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม น้ํามันส่วนใหญ่—ประมาณ 75%—มาจากลุ่มน้ําเพอร์เมียน
นักวิเคราะห์จาก Truist Securities ตั้งข้อสังเกตถึงเสถียรภาพทางการเงินของ SM Energy โดยชี้ให้เห็นถึงงบดุลที่แข็งแกร่งของบริษัทโดยมีเลเวอเรจน้อยกว่าหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทตระหนักดีว่าการสร้างกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ของ SM Energy ยังคงอยู่ในระดับปานกลาง สาเหตุมาจากการผลิตน้ํามันของบริษัทน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด ประกอบกับผลประกอบการล่าสุดเพียงเล็กน้อยจากการดําเนินงานของลุ่มน้ํามิดแลนด์
การรายงานข่าวยังสอดคล้องกับแนวโน้มเชิงกลยุทธ์ของบริษัท มีการกล่าวว่า SM Energy อาจกําลังสํารวจโอกาสในการขยายฐานสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจพิจารณาขายหากไม่สามารถหาสินทรัพย์ที่สําคัญที่จะได้มา สิ่งนี้บ่งชี้ถึงแนวทางที่ยืดหยุ่นในการเติบโตและกลยุทธ์การดําเนินงานโดยปรับให้เข้ากับพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดพลังงาน
ราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ $51.00 สะท้อนถึงการประเมินมูลค่าบริษัทของ Truist Securities ตามปัจจัยที่กล่าวถึง อันดับเครดิต Hold ชี้ให้เห็นว่าบริษัทแนะนําให้นักลงทุนรักษาตําแหน่งใน SM Energy ในปัจจุบัน โดยไม่สนับสนุนการซื้อหุ้นเพิ่มเติมหรือขายการถือครองที่มีอยู่ คําแนะนํานี้ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์โปรไฟล์การผลิตของ บริษัท สุขภาพทางการเงินและตัวเลือกเชิงกลยุทธ์
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ ผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งของ SM Energy สําหรับปี 2024 ได้กระตุ้นให้ RBC Capital Markets เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นจาก 50.00 ดอลลาร์เป็น 54.00 ดอลลาร์ในขณะที่ยังคงอันดับเครดิต Sector Perform การปรับเปลี่ยนนี้เป็นไปตามความสําเร็จของ บริษัท ในการดําเนินโครงการริเริ่มการเติบโตแบบออร์แกนิกต่างๆเช่นการพัฒนาหลุมในพื้นที่เพาะปลูก Permian 'Klondike' แห่งใหม่และโครงการเจาะเพื่อหารายได้ใน Austin Chalk โครงการเหล่านี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทได้ตลอดทั้งปี
ในระหว่างการเรียกรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2024 ล่าสุด SM Energy ได้เปิดเผยกลยุทธ์การดําเนินงาน ซึ่งรวมถึงการซื้อหุ้นคืนอย่างสม่ําเสมอประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส บริษัทยังเน้นย้ําถึงประสิทธิภาพการดําเนินงาน เช่น การทดแทนก๊าซธรรมชาติสําหรับน้ํามันดีเซลในกระบวนการ fracking ซึ่งคาดว่าจะลดการปล่อย CO2 และลดต้นทุน
การพัฒนาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในแนวโน้มกระแสเงินสดอิสระสําหรับ SM Energy ตามที่ระบุไว้โดย RBC Capital Markets บริษัทคาดว่าจะบรรลุอัตราการออกจากงานที่สูงขึ้นในปี 2025 โดยได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการริเริ่มการเติบโตที่ประสบความสําเร็จ
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ในขณะที่ SM Energy (NYSE:SM) สํารวจตลาดพลังงานแบบไดนามิก ข้อมูล InvestingPro นําเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเงินและประสิทธิภาพของหุ้นของบริษัท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 5.73 พันล้านดอลลาร์ SM Energy ซื้อขายด้วยอัตราส่วน P/E ที่ 7.83 ซึ่งบ่งชี้ถึงสถานะที่อาจประเมินค่าต่ําเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ อัตราส่วน P/E ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ลดลงเล็กน้อยที่ 7.64 ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มผลประกอบการที่มั่นคง
นักลงทุนอาจสังเกตอัตรากําไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งของบริษัทที่ 81.55% ซึ่งสะท้อนถึงการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่ารายได้จะลดลง 24.1% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 แต่ SM Energy ยังคงจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 32 ปีติดต่อกัน โดยมีการเติบโตของเงินปันผลที่โดดเด่นที่ 20.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน ความมุ่งมั่นในผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นนี้เสริมด้วยประสิทธิภาพด้านราคาที่แข็งแกร่ง โดยให้ผลตอบแทน 74.22% ในปีที่แล้ว และการซื้อขายหุ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ 93.6% ของมูลค่าสูงสุด
สําหรับผู้ที่พิจารณาการลงทุน InvestingPro นําเสนอข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมพร้อมเคล็ดลับ InvestingPro สองข้อ: โดยทั่วไปหุ้นจะซื้อขายโดยมีความผันผวนของราคาต่ํา และทํากําไรได้ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ สินทรัพย์สภาพคล่องของ SM Energy ยังเกินภาระผูกพันระยะสั้น ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาพคล่องที่ดี หากต้องการสํารวจเคล็ดลับเพิ่มเติมและเข้าถึงการวิเคราะห์พิเศษ ให้ใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดเพิ่มเติม 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro และ Pro+ รายปีหรือรายปักษ์ ด้วยเคล็ดลับ InvestingPro อีก 11 ข้อสําหรับ SM Energy นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดโดยอิงจากข้อมูลที่ครอบคลุมและการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน