โดย Barani Krishnan
Investing.com – ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษในวันจันทร์ และทำให้ทองคำร่วงลงจากที่อยู่ระดับกลางที่ 1,700 ดอลลาร์
ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเดือนสิงหาคม ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์กปิดตัวลง 10.60 ดอลลาร์หรือ 0.6% ที่ 1,731.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นอันดับที่ 4 ติดต่อกันนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิถุนายน โดยการดิ่งลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการร่วงลงที่ชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พฤษภาคม
ราคาทองคำร่วงลงเมื่อ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินสหรัฐฯ เทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ อีก 6 สกุลแตะจุดสูงสุดใหม่เหนือ 108 นับตั้งแต่ตุลาคม 2002
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลางสัญญาณว่า ดัชนีผู้บริโภคสหรัฐฯ ของเดือนมิถุนายนที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธจะแสดงอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขรายปีที่ 8.8% เทียบกับ 8.6% ของรายงานเดือนพฤษภาคม แต่เป้าหมายของเฟดสำหรับอัตราเงินเฟ้อนั้นอยู่ที่เพียง 2% ต่อปี ทำให้เฟดกล่าวคำมั่นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวให้ได้
อัตราเงินเฟ้อควรเป็นแรงหนุนสำหรับทองคำ เนื่องจากทองคำมีสถานะยืนยาวเพื่อป้องกันแรงกดดันด้านราคาและเป็นหนึ่งในสินทรัพท์ที่มีมูลค่าดีที่สุด แต่การที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยให้ดอลลาร์กลายเป็นสินทรัพท์ “ปลอดภัย”แทนทองคำได้
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นผลดีต่อทองคำ ตลาดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับอัตราต่อรองของเฟดที่กำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ 75 จุดพื้นฐานในเดือนนี้และอีกสามจุดถัดไปหากตัวเลข CPI ไม่ลดลงเร็วพอตามที่ธนาคารกลางคาดไว้ภายในสิ้นปี
“อัตราเงินเฟ้อกำลังเล่นชักเย่อกับทองคำและทองคำก็กำลังพยายามที่จะรักษาเส้นของตัวเองไว้ รายงานอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในวันพุธจะช่วยหนุนความคาดหมายในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงปลายเดือนนี้ และเพิ่มความคาดหวังสำหรับการประชุมเดือนกันยายน” เอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว
“ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทให้ความสนใจไปที่ (ไม่ว่า) เฟดจะทำเศรษฐกิจนี้ไปสู่ภาวะถดถอย ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะยังคงอยู่ในการซื้อขายและนั่นเป็นสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากสำหรับทองคำ” โมย่ากล่าวเสริม
การคาดการณ์ของเฟดสำหรับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 27 กรกฎาคมจะได้รับการแก้ไขหลังจากรายงานตัวเลข CPI และสัญญาณจากธนาคารวอลล์สตรีทว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ และเศรษฐกิจกำลังอ่อนตัวเร็วกว่าที่ประมาณการรายได้ส่วนใหญ่โดยนัยหรือไม่
เฟดแห่งนิวยอร์กกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าผู้บริโภคมากกว่าครึ่งที่สำรวจในเดือนนี้ประกาศว่าสถานการณ์ทางการเงินในครัวเรือนของพวกเขาแย่ลงจากปีที่แล้ว และเกือบครึ่งหนึ่งคาดว่าจะแย่ลงในปี 2023