รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

น้ำมันขึ้นในขณะที่ความกังวลการเติบโตทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไป

เผยแพร่ 19/05/2565 12:04
อัพเดท 19/05/2565 12:03
© Reuters.

โดย  Gina Lee

Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเช้าวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย ฟื้นตัวจากการสูญเสียก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัวมีมากกว่าความกลัวต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 1.45% เป็น 110.69 ดอลลาร์เมื่อเวลา 00:58 น. ET (5:58 น. GMT) หลังจากร่วงลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้าของเซสชั่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.07% เป็น 108.18 ดอลลาร์ฟื้นตัวจากการสูญเสียก่อนหน้านี้ที่มากกว่า 2 ดอลลาร์และเพิ่มขึ้น 56 เซนต์หรือ 0.5% เป็น 107.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม 2022

เกณฑ์มาตรฐานทั้งน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI ลดลงประมาณ 2.5% ในวันพุธ

ซาโตรุ โยชิดะ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Rakuten Securities บอกกับรอยเตอร์สว่า “การเริ่มต้นที่ไม่ต่อยดีของวอลล์สตรีททำให้บรรยากาศการซื้อขายช่วงแรกเริ่มแย่ลง เนื่องจากมันเน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคที่อ่อนตัวลงและความต้องการเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น”

หุ้นเอเชียในวันพฤหัสบดีถูกเทขายออกตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น นโยบายปลอดโควิดของจีน และสงครามยูเครนทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอย

“ถึงกระนั้น ตลาดน้ำมันยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากการห้ามนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซียที่รอการอนุมัติจากสหภาพยุโรป คาดว่าจะทำให้อุปทานทั่วโลกตึงตัวยิ่งขึ้น” โยชิดะ กล่าว

โดยเมื่อต้นเดือน สหภาพยุโรปได้เสนอชุดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซียสำหรับการรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงการแบนการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียทั้งหมดในเวลาหกเดือน แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้รับการรับรอง เพราะยังคงมีการต่อต้านจากประเทศสมาชิกรวมถึงฮังการีอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันพุธ คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดเผยแผนมูลค่า 210 พันล้านยูโร (220.65 พันล้านดอลลาร์) สำหรับยุโรปที่จะยุติการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียภายในปี 2027

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบในวันพุธจากสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ พบว่ามีการเบิกออกมาใช้ 3.394 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่ม 1.383 ล้านบาร์เรล ในขณะที่มีรายงานการเพิ่มที่ 8.487 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า

ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อน แสดงให้เห็นการเบิกจ่าย 2.445 ล้านบาร์เรล การใช้กำลังการผลิตทั้งบนชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งกัลฟ์โคสต์สูงกว่า 95% โดยโรงกลั่นเหล่านั้นได้ดำเนินการการผลิตในอัตราที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย