โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย โดยรีบาวด์ขึ้นจากความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่จะเพิ่มอุปทานอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าประเทศของเขาสนับสนุนให้มีการเพิ่มอุปทานในวงกว้างมากขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 2.92% เป็น 114.39 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:06 น. ET (4:06 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.66% เป็น 110.50 ดอลลาร์
Suhail al-Mazrouei รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ล่าวใน Twitter เมื่อวันพุธว่าประเทศของเขาให้คำมั่นต่อแผนขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ที่จะเพิ่มอุปทาน 400,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากการลดลงอย่างมากในอุปทานรายเดือนปี 2020 "สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เชื่อมั่นในคุณค่าของ OPEC+ ที่มีต่อตลาดน้ำมัน" al-Mazrouei ทวีต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Yousef Al Otaiba เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าประเทศของเขาจะสนับสนุนให้กลุ่มพันธมิตรพิจารณาผลผลิตที่สูงขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านอุปทานอันเนื่องมาจากการคว่ำบาตรรัสเซียภายหลังบุกยูเครน
ในบรรดาสมาชิก OPEC+ ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียต่างก็มีกำลังการผลิตสำรอง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรายอื่นๆ พบว่าการบรรลุเป้าหมายการส่งออกมีความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“เราคิดว่ามันจะเป็นความท้าทายสำหรับกลุ่ม OPEC+ สำหรับการเพิ่มการผลิตในสภาพแวดล้อมนี้” วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ ธนาคาร Commonwealth ของออสเตรเลีย กล่าวกับรอยเตอร์ส
จากรายงานในวันพุธ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากสำนักงานข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ามีการดึงน้ำมันออกมา 1.863 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 657,000 บาร์เรล คาดการณ์โดย Investing.com แต่ต่ำกว่าที่วาดไว้ 2.597 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อน
ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อน แสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มผลผลิต2.811 ล้านบาร์เรล