โดย Gina Lee
Investing.com - ราคาน้ำมันร่วงลง แต่ยังคงเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ หลังจากที่เฟดแถลงการณ์ว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.79% มาอยู่ที่ 72.50 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:36 น. ET (4:36 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.82% เป็น 70.46 ดอลลาร์
ค่าเงิน ดอลลาร์ พุ่งสูงขึ้นในสองช่วงการซื้อขาย หลังจากที่เฟดคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2023 อันส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
จัสติน สเมิร์ก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Westpac กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ในระยะสั้น ความต้องการน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากบางประเทศกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในที่สุด
“ช่วงนี้แนวโน้มเป็นไปในเชิงบวกทั้งหมด คำถามคือมันจะเพิ่มขึ้นได้อีกแค่ไหน ขอบเขตมีมากน้อยเพียงใด หากพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น” สเมิร์กกล่าวเสริม
ขณะเดียวกัน อังกฤษมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,007 ราย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดรายวัน นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.
ทางด้านอุปทาน อับบาส อารักชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า การเจรจาระหว่างอิหร่านและสหรัฐในเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 มีความคืบหน้าไปมากกว่าเดิม
“เราบรรลุความคืบหน้าที่ดีและเป็นรูปธรรมในประเด็นต่าง ๆ เราเข้าใกล้ข้อตกลงมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังมีปัญหาสำคัญภายใต้การเจรจา” เขากล่าวเสริม
นักวิเคราะห์จาก ANZ Research ระบุในรายงานว่า "การเจรจารอบใหม่ทำให้เกิดความกังวลว่า สิ่งนี้จะนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ส่งผลให้น้ำมันท่วมตลาด แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ปัจจัยพื้นฐานก็บ่งชี้ว่าตลาดยังคงตึงตัว"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้าจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอิหร่าน ซึ่งจะทราบผลในวันนี้