โดย Gina Lee
Investing.com - ราคาน้ำมันเช้านี้ลดลง แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจะหดหายไปมากเกินคาด
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.42% สู่ 68.44 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:13 น. ET (02:13 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.44% สู่ 65.92 ดอลลาร์
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) แสดงให้เห็นว่าเหลือ 1.662 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดย Investing.com คาดการณ์ไว้ที่ 1.05 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการบันทึกไว้ว่าลดลง 426,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก American Petroleum Institute ระบุว่า อุปทานลดลง 439,000 บาร์เรล
ในขณะเดียวกัน EIA ยังรายงานว่า น้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.745 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐฯกำลังก้าวไปสู่การกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด
“ทุกข้อมูลในรายงานของ EIA แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีในระดับหนึ่ง จากปริมาณน้ำมันคงคลังที่ลดลงทั่วประเทศ” แมทท์ ซัลลี ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Tortoise กล่าวกับ Bloomberg
นั่นเป็นการตอกย้ำมุมมองที่ว่า “สหรัฐฯเป็นผู้นำในการฟื้นตัวทั่วโลก ในขณะที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐฯยังคงมีมาตรการคุมเข้ม” เขากล่าวเสริม
ข้อมูลการใช้รถใช้ถนนในอังกฤษ อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด
นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามการเจรจาระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯเรื่องการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบของอิหร่านเพิ่มเข้าสู่ตลาดได้หากสหรัฐฯยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร โดยการเจรจาจะดำเนินต่อไปในกรุงเวียนนาตลอดทั้งสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน การระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ รวมถึงอินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก กำลังส่งผลกระทบต่อแนวโน้มความต้องการเชื้อเพลิง ส่วนรัฐวิกตอเรียที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของออสเตรเลีย จะทำการล็อคดาวน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้