โดย Barani Krishnan
Investing.com - ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
ราคาน้ำมันปิดในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่สองและทำให้ตลาดน้ำมันปรับตัวลงมากกว่า 10% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวที่ย่ำแย่ในวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่บ่งชี้ถึงสภาพตลาดสหรัฐ และเคลื่อนไหวในแดนลบเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะปิดได้ค่อนข้างคงตัว
เมื่อวันศุกร์ สัญญาเวสท์เท็กซัส ปิดบวก 3 เซนต์ที่ $37.33 ต่อบาร์เรลก่อนที่จะปิดหลังตลาดปิดที่ $37.38 ต่อบาร์เรล โดยราคาสัญญารายสัปดาห์ของ WTI ทรุดตัวลง 6.1% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่ติดลบ 7.5%
สัญญาเบรนท์ ปิดลบ 23 เซนต์หรือ 0.6.% เท่ากับ $39.83 และปิดหลังตลาดปิดที่ $39.80 ต่อบาร์เรล โดยสัปดาห์ที่แล้วสัญญาเบรนท์ติดลบ 6.6% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่ปรับตัวลง 5.3%.
ขาลงครั้งนี้ตามมาหลังจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่สูงขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ต่างจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าจะสูงขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐสูงขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม โดยในหกสัปดาห์ก่อนหน้านี้ EIA ได้รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ลดลงมามากกว่า 38 ล้านบาร์เรลแล้ว
ตลาดน้ำมันมีภาพรวมที่ค่อนข้างคลุมเครือในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากตลาดเชื่อมั่นในความเป็นไปได้มากกว่าข้อมูลทางสถิติ
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจาก การจ้างงานที่ชะลอตัว นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแม้อัตราการว่างงานจะลดลงเหลือเปอร์เซ็นต์หลักเดียว และดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น
ปฏิทินเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน
ปริมาณน้ำมันดิบในแหล่งกักเก็บน้ำมันคุชชิง (ตัวเลขภาคเอกชน)
วันอังคารที่ 15 กันยายน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์จาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API)
วันพุธที่ 16 กันยายน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์จาก EIA
ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์จาก EIA
ปริมาณสิ่งกลั่นคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์จาก EIA
วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน
ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์จาก EIA
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจาก Baker Hughes
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
ราคาทองคำจบสัปดาห์ด้วยขาขึ้นเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน โดยปรับขึ้นเฉลี่ยไม่ถึง $10 ในแต่ละวันเนื่องจากตลาดการเงินไม่มีปัจจัยบ่งชี้ทิศทางใด ๆ อย่างชัดเจน
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดลบ $16.40 หรือ 0.8% เท่ากับ $1947.9 ต่อออนซ์ในตลาดโคเม็กซ์ และปิดหลังตลาดปิดที่ 1,948.25 โดยเมื่อวันพุธถึงศุกร์ราคาทองคำสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวขึ้นมาเหนือ $27 เพียงเล็กน้อย
ราคาทองคำโลก ปิดที่ $1,940.36 ปรับตัวลง $5.82 หรือ 0.3%
เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวขึ้น 0.7% ส่วนราคาทองคำโลกขยับขึ้น 0.5%
ถึงกระนั้นราคาทองคำก็ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของโคเม็กซ์ที่เกือบถึง $2,090 และราคาทองคำโลกที่เหนือกว่า 2,073 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม
เมื่อพิจารณาจากกราฟ ราคาทองคำโลกจะต้องขึ้นไปถึงอย่างน้อย $1,968 จึงจะสามารถฟื้นคืนแรงส่งขาขึ้นที่นำพาราคาทองคำโลกไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้วได้