💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

แนวโน้มราคาทองภาคเช้า( 30 ก.ค.) ราคาพุ่งขึ้นหลังผลประชุมเฟด

เผยแพร่ 30/07/2563 09:45
© Reuters.
XAU/USD
-
GC
-

โดย Detchana.K

Investing.com - YLG BULLION เปิดเผยว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้นอีก 9.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวแคบในช่วงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เสร็จสิ้น แม้จะมีแรงขายสลับออกมาหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 16.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 12.5% แต่ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากกรอบล่าง ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดอาจส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคตหากจำเป็น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเฟดมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% ในการประชุมที่สิ้นสุดเมื่อคืนนี้ตามคาด พร้อมกันนี้เฟดยังคงคำมั่นตามเดิมว่า “อัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับปัจจุบัน จนกว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มประสิทธิภาพและรักษาเสถียรภาพด้านราคา รวมถึงยืนยันว่า “เฟดจะใช้มาตรการและเครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่” เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ จุดยืนในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง -0.26% เมื่อวานนี้ และทดสอบระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี จึงเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำพุ่งกลับมาทดสอบระดับสูงสุดที่ 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาจนทำให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลง ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลด -1.16 ตัน สู่ระดับ 1,241.96 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีไตรมาส 2/2020 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ

หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,981 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์) ขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,981-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนเหนือระดับ 1,948-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,948-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,981 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุด 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกไปก่อน

ราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ล่าสุดได้ที่
https://th.investing.com/currencies/xau-usd

สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold

บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย