InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (8 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเบริล (Beryl) อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐ นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่จะมีการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซายังเป็นปัจจัยฉุดราคาน้ำมันอ่อนแรงลงด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.0% ปิดที่ 82.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 79 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเบริลได้ก่อให้เกิดลมกระโชกรุนแรงและฝนตกหนัก ส่งผลให้มีการปิดโรงกลั่นและท่าเรือหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโก นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ระงับเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว และทำให้ครัวเรือนและธุรกิจกว่า 2.7 ล้านแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้
บริษัทเชลล์ได้ระงับการผลิตน้ำมัน และอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันเปอร์ดิโด ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองกัลเวสตันไปทางใต้ราว 200 ไมล์ โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันดังกล่าวผลิตน้ำมันราว 100,000 บาร์เรล/วัน หรือราว 5.5% ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก
ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า การเจรจาเพื่อยุติการสู้รบในฉนวนกาซาตามแผนการของสหรัฐนั้น ยังคงดำเนินต่อไปในขณะนี้ โดยมีกาตาร์และอียิปต์ทำหน้าที่เป็นคนกลาง
นักลงทุนกำลังประเมินว่าผลการเลือกตั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิหร่านจะส่งกระทบอย่างไรต่อสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายพลังงาน โดยพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายและส่งผลให้นายเคียร์ สตาร์เมอร์ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ ขณะที่นายมาซูด เปเซชเคียน ผู้สมัครสายปฏิรูปได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน
ส่วนในฝรั่งเศสนั้น พรรคแนวร่วมประชาชนใหม่ (NFP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายได้สร้างความประหลาดใจด้วยการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศส แซงหน้าพรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพุธ