Investing.com - ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังจับตาผลกระทบของพายุโซนร้อนเบอรีลต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันกับที่ตลาดยังต้องจับตาสัญญาณความต้องการน้ำมันในฤดูร้อนที่แข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันถึงสี่สัปดาห์ท่ามกลางความคาดหวังต่ออุปสงค์ในฤดูร้อน การเพิ่มขึ้นล่าสุดยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานเนื่องจากสภาพอากาศ
แต่ความกลัวเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการที่อ่อนตัวในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับต้น ๆ ได้ทำให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงนี้ถูกจำกัดไปบ้าง
เมื่อเวลา 20:21 ET (00:21 GMT) น้ำมันเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายนปรับขึ้น 0.2% มาเป็น 86.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 82.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้งสองยังคงเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับระดับสูงสุดตลอดสองเดือนล่าสุด
พายุโซนร้อนเบอรีลเข้าใกล้เท็กซัส
รายงานของสื่อระบุว่าท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดในเท็กซัสได้ปิดการดำเนินงานและบล็อกการจราจรในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อเตรียมรับมือพายุโซนร้อนเบอรีล ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนอีกครั้งก่อนขึ้นฝั่ง
พายุดังกล่าวคาดว่าจะผ่านภูมิภาคส่งออกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ ซึ่งการปิดท่าเรือจะสร้างความล่าช้าในการจัดส่งน้ำมัน
การคาดการณ์เบื้องต้นคาดว่าพายุเบอรีลจะมีผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันเพียงเล็กน้อย แต่พายุกลับมีความรุนแรงต่อเนื่องหลังจากทิ้งร่องรอยการทำลายล้างในจาไมกา
อ่าวเม็กซิโกเป็นภูมิภาคการผลิตน้ำมันที่สำคัญสำหรับอเมริกาเหนือ และต้องเผชิญกับการหยุดชะงักของการผลิตทุกปีในช่วงฤดูพายุฤดูร้อน
การหยุดชะงักใด ๆ ในการผลิตน้ำมันอาจทำให้เกิดโอกาสที่อุปทานน้ำมันดิบจะตึงตัว ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ดีต่อราคาน้ำมัน
การเดินทางที่เพิ่มขึ้นและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ช่วยหนุนราคาน้ำมัน
ความต้องการการเดินทางในสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงวันหยุดวันประกาศอิสรภาพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การเบิกถอนสินค้าคงคลัง น้ำมัน ของสหรัฐฯ จำนวนมากยังเพิ่มการเดิมพันในอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในฤดูร้อน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มที่ดี
นอกจากนี้ ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลางยังทำให้นักลงทุนมีการตั้งราคาค่าพรีเมียมความเสี่ยงในราคาน้ำมัน โดยความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนนั้นยังไม่มีวี่แววที่จะคลี่คลาย ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน