🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

นักวิเคราะห์ชี้ราคาโลหะเงินอาจพุ่งทะยานโดดเด่นเหนือทองคำ

เผยแพร่ 11/03/2567 21:47
นักวิเคราะห์ชี้ราคาโลหะเงินอาจพุ่งทะยานโดดเด่นเหนือทองคำ
XAU/USD
-
XAG/USD
-

InfoQuest - ราคาทองอาจพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า โลหะเงินมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นโดดเด่นเหนือทองคำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ราคาทองสปอตปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2,178 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ในวันนี้ (11 มี.ค.) หลังปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2522 ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.

ขณะที่ ราคาเงินสปอตปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ระดับ 24.36 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ณ เวลา 06.24 น.ในวันนี้ตามเวลากรุงลอนดอน (13.24 น.ตามเวลาไทย) หลังปรับตัวขึ้นกว่า 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาและปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ราคาโลหะมีค่าต่างปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางการคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เงินเฟ้อในปัจจุบันนั้นอยู่ไม่ห่างจากระดับที่จะสนับสนุนให้เฟดสามารถเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ทองคำ ซึ่งปกติแล้วได้รับการพิจารณาว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเงิน ปรับตัวสูงขึ้นแม้อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างแข็งค่าก็ตาม

"หากคุณพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันของทองคำ แม้ว่าทองจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วแกว่งไปมาระหว่างสองปัจจัย โดยบางครั้งราคาทองก็เคลื่อนไหวสอดคล้องกับช่วงเสี่ยงและบางครั้งก็สวนทางกับช่วงเสี่ยง" นายมาร์คัส การ์วีย์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โภคภัณฑ์ของบริษัทแมคควอรี (Macquarie) ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Street Signs Europe" ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซีเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มี.ค.

"คุณต้องหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ราคาทองเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ทองปรับตัวขึ้นสูงในขณะนี้คือการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย" นายการ์วีย์กล่าว
นายการ์วีย์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อในระยะใกล้ของสหรัฐอาจเป็นปัจจัยกำหนดราคาทอง ซึ่งนายการ์วีย์อธิบายว่าข้อมูลเหล่านี้มีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง โดยปัจจัยนี้อาจหนุนให้ทองคำพุ่งแตะ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือปรับลดลงสู่ระดับประมาณ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

"หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นกรณีพื้นฐานของเรา ผมคิดว่าราคาเงินจะปรับตัวขึ้น โดยเปลี่ยนจากทำผลงานด้อยกว่าทองมาเป็นทำผลงานได้ดีกว่าทองในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้" นายการ์วีย์กล่าว

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย