InfoQuest - ราคาทองอาจพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า โลหะเงินมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นโดดเด่นเหนือทองคำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ราคาทองสปอตปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2,178 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ในวันนี้ (11 มี.ค.) หลังปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2522 ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.
ขณะที่ ราคาเงินสปอตปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ระดับ 24.36 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ณ เวลา 06.24 น.ในวันนี้ตามเวลากรุงลอนดอน (13.24 น.ตามเวลาไทย) หลังปรับตัวขึ้นกว่า 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาและปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ราคาโลหะมีค่าต่างปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางการคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เงินเฟ้อในปัจจุบันนั้นอยู่ไม่ห่างจากระดับที่จะสนับสนุนให้เฟดสามารถเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ทองคำ ซึ่งปกติแล้วได้รับการพิจารณาว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเงิน ปรับตัวสูงขึ้นแม้อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างแข็งค่าก็ตาม
"หากคุณพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันของทองคำ แม้ว่าทองจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วแกว่งไปมาระหว่างสองปัจจัย โดยบางครั้งราคาทองก็เคลื่อนไหวสอดคล้องกับช่วงเสี่ยงและบางครั้งก็สวนทางกับช่วงเสี่ยง" นายมาร์คัส การ์วีย์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โภคภัณฑ์ของบริษัทแมคควอรี (Macquarie) ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Street Signs Europe" ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซีเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มี.ค.
"คุณต้องหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ราคาทองเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ทองปรับตัวขึ้นสูงในขณะนี้คือการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย" นายการ์วีย์กล่าวนายการ์วีย์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อในระยะใกล้ของสหรัฐอาจเป็นปัจจัยกำหนดราคาทอง ซึ่งนายการ์วีย์อธิบายว่าข้อมูลเหล่านี้มีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง โดยปัจจัยนี้อาจหนุนให้ทองคำพุ่งแตะ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือปรับลดลงสู่ระดับประมาณ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
"หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นกรณีพื้นฐานของเรา ผมคิดว่าราคาเงินจะปรับตัวขึ้น โดยเปลี่ยนจากทำผลงานด้อยกว่าทองมาเป็นทำผลงานได้ดีกว่าทองในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้" นายการ์วีย์กล่าว