Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้และทำกำไรเพิ่มเติมจากการดีดตัวก่อนหน้า หลังสัญญาณการหยุดชะงักของอุปทานในตะวันออกกลางยังคงมีอยู่ ขณะที่ข้อมูลอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสินค้าคงคลังน้ำมันสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์
ราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ หลังร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันจันทร์ เนื่องจากซาอุดีอาระเบียลดราคาขายน้ำมันลงเมื่อต้องเผชิญกับอุปสงค์ที่อ่อนตัว
แต่ราคาก็ดีดตัวขึ้นท่ามกลางความหวังว่าตลาดน้ำมันจะตึงตัวเนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทานในตะวันออกกลาง ขณะที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสยังคงดำเนินต่อไป ทางด้านลิเบียก็ได้ทำการระงับการผลิตของแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมีนาคม ขยับขึ้น 0.3% เป็น 77.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.3% เป็น 72.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อ 20:18 ET (01:18 GMT) โดยดัชนีทั้งสองกลับมาอยู่ในระดับเดิมก่อนที่จะร่วงลงอย่างมากในช่วงต้นสัปดาห์
ราคาน้ำมันยังคงฟื้นตัวจากการขาดทุนมากกว่า 10% ในปี 2023 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอและตลาดที่ตึงตัวน้อยลงได้สร้างแรงกดดันต่อราคาเกือบจะตลอดทั้งปี
รายงานเบิกถอนสินค้าคงคลังน้ำมันสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ แต่ปริมาณน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น API
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่าการเบิกใช้ของสินค้าคงคลังน้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 5.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 5 มกราคม ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล
รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็น การเบิกถอนที่มากกว่าที่คาดไว้ อีกครั้งหลังก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 ขณะที่โรงกลั่นของสหรัฐฯ ได้เพิ่มการส่งออกเพื่อเติมเต็มช่องว่างของอุปทานที่เกิดจากการหยุดชะงักในตะวันออกกลาง
แต่ข้อมูล API ยังแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของสินค้าคงคลัง น้ำมันเบนซิน และ น้ำมันคงเหลือประจำสัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ของผู้บริโภคเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงอ่อนแอ แนวคิดนี้รุนแรงขึ้นจากพายุฤดูหนาวลูกใหญ่ที่พัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในประเทศ ทำให้การเดินทางบนท้องถนนยิ่งจำกัดมากขึ้น
ความต้องการเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักเกิดจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้ ราคาน้ำมัน ของสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี
ข้อมูล API มักจะแสดงให้เห็นตัวเลขที่คล้ายกันจากข้อมูลสินค้าคงคลังอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
ความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลงของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะลดลงในปี 2024 ซึ่งเมื่อรวมกับอุปทานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว ก็ส่งผลไม่ดีต่อราคาน้ำมัน
การลดราคาของซาอุดิอาระเบียทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ลดลง เช่นเดียวกับรายงานทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากผู้นำเข้าชั้นนำอย่างจีน
การแข็งค่าของเงิน ดอลลาร์ ยังส่งผลต่อราคาน้ำมันดีกด้วย เนื่องจากดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ข้อมูลสำคัญอย่าง อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะใช้เป็นปัจจัยในการกำหนดนโยบายการเงิน
รายงานอัตราเงินเฟ้อ ของจีนก็มีกำหนดการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ดุลการค้า คาดว่าจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันของประเทศ ซึ่งชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา