InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 2% ในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังปรับตัวผันผวนในรอบสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การปรับลดการผลิตน้ำมันรอบล่าสุดของกลุ่มโอเปกพลัส และวิตกเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิตที่ซบเซาทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงมากกว่า 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 78.88 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงราว 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้
กลุ่มโอเปกพลัสตกลงกันเมื่อวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) ที่จะลดการผลิตน้ำมันลงประมาณ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยยอดรวมการปรับลดดังกล่าวนั้นรวมถึงปริมาณการปรับลดโดยสมัครใจของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียที่ดำเนินอยู่แล้วในปัจจุบันที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเปกพลัสซึ่งผลิตน้ำมันมากกว่า 40% ของโลกนั้น กำลังมุ่งเน้นไปที่การปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงจากประมาณ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงปลายเดือนก.ย. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในปี 2567
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 46.7 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.6 โดยดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13
ผลสำรวจต่าง ๆ บ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตทั่วโลกยังคงอ่อนแอในเดือนพ.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่ย่ำแย่
บริษัทเบเคอร์ ฮิวช์สซึ่งให้บริการด้านพลังงานเปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 505 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.