[BREAKING] บอร์ด EV แห่งประเทศไทย ออกมาตรการกระตุ้นรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ ! ตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศทะลุ 1 ล้านคันภายใน 4 ปี !
อัพเดทจากประเด็นที่ได้แชร์ไปเมื่อคืนนี้ว่า “ประเทศไทยอาจยกเลิกการขายรถยนต์น้ำมันภายในปี 2035”
หลังคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เตรียมกำหนดนโยบายใหม่เพื่อ #ดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก และเตรียมลดการพึ่งพาการใช้รถยนต์น้ำมัน
วันนี้ทางรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้จัดประชุมบอร์ด EV ขึ้น
และมีอัพเดทที่สำคัญดังนี้
ในปัจจุบันทั่วโลกต่างตระหนักถึงปัญหาผลกระทบจาก #ภาวะโลกร้อน ที่เกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดก๊าซเรือนกระจก
จึงทำให้หลายประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป ประกาศเป้าหมายชัดเจนว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็น 0 และงดการใช้รถยนต์น้ำมัน
เพื่อให้ทิศทางการดำเนินงานนโยบายด้านพลังงานของไทย #สอดคล้องกับกระแสเทรนด์ของโลก จึงมีนโยบายลดการใช้รถยนต์น้ำมันและเปลี่ยนไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อีกทั้งรถยนต์น้ำมันยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อีกด้วย
จากการศึกษาคาดว่าภายใน 4 ปี (ปี 2025) #รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์น้ำมัน เพราะต้นทุนกำลังลดลงเรื่อยๆ
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของอุปทาน (ผู้ผลิต) โดยเฉพาะการเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องในยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงผลักดันผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เพื่อเร่งให้เกิดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยโดยเร็ว
เป้าหมายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
บอร์ด EV ตั้งเป้าหมาย #การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมทุกประเภทในปี 2025 รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,055,000 คัน
โดยแบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 402,000 คัน รถจักรยานยนต์ 622,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 31,000 คัน และ
และในปี 2035 ให้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนรวม 15,580,000 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 6,400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 8,750,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 430,000 คัน
ด้านการผลิตทางบอร์ด EV ได้วางเป้าหมาย #การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ของประเทศในปี 2025 จะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,051,000 คัน
โดยแบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 620,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 31,000 คัน
และในปี 2035 ให้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนรวม 18,413,000 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 8,625,000 คัน รถจักรยานยนต์ 9,330,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 458,000 คัน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้วางนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยมาตรการระยะเร่งด่วนและมาตรการระยะยาว (1- 5 ปี) ดังนี้
มาตรการกระตุ้นการใช้รถ EV #ระยะเร่งด่วน
จะมุ่งส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภทสองล้อ สามล้อ และสี่ล้อไฟฟ้า โดยวางแผนจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่และการบริหารจัดการซากแบตเตอรี่ที่เกิดจากการใช้งานภายในประเทศอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มาตรการกระตุ้นการใช้รถ EV #ระยะยาว (1- 5 ปี)
จะดำเนินการส่งเสริมการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต การเตรียมการด้านการบริหารจัดการซากรถยนต์แบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเป็นหลักตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน (EcoSystem) เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด
ที่ประชุมยังได้พิจารณา #แต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ขึ้นเพื่อให้การส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดำเนินนโยบายไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
1) คณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน
2) คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและแบตเตอรี่เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า
3) คณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซเรือนกระจกจากการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า
4) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
ที่มา: EPPO
ติดตามข่าวสารสาระที่น่าสนใจรอบโลกไปกับเราได้อย่างรวดเร็ว
แนะนำให้นักลงทุนทุกท่านตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนของเพจให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณครับ
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP