นับตั้งแต่หุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตเทสลา (NASDAQ:TSLA) ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $498.32 ได้ในวันที่ 31 สิงหาคมจากนั้นหุ้นเทสลาได้ปรับตัวร่วงลงมาอย่างไม่น่าเชื่อ ล่าสุดเมื่อวันอังคารหุ้นเทสลาสามารถร่วงลงมาทีเดียว 21.1% ซึ่งถือเป็นขาลงที่หนักที่ครั้งหนึ่งของหุ้นเทสลาเลย ขาลงครั้งนี้ไม่เพียงทำให้นักลงทุนเสียความมั่นใจแต่ยังแรงพอที่จะพากราฟเข้าสู่ตลาดขาลงด้วย หากนับรวมขาลงที่เกิดขึ้นตลอด 3 วันล่าสุดตอนนี้หุ้นเทสลาได้วิ่งลงมาแล้ว 33.8%
ขาลงของหุ้นเทสลาครั้งนี้ถือว่ามาในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ ก่อนหน้านี้ไม่นานหุ้นเทสลาพึ่งเจอกับข่าวร้ายเมื่องบริษัทเทสลายังไม่สามารถมีชื่ออยู่บนดัชนีหลักของอเมริกาอย่าง S&P 500 ได้ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันกับการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของนักลงทุนในตลาดพอดี ที่จริงแล้วการจะมีเทสลาอยู่บน S&P 500 หรือไม่นั้นเป็นเรื่องปัจจัยของเวลาเท่านั้นแต่หากจะให้เทสลาสามารถขึ้นไปอยู่บน S&P 500 ได้ทันทีกลุ่มที่จะต้องรับความเสี่ยงมากที่สุดคือกลุ่มกองทุนที่วิเคราะห์ให้กับนักลงทุนไปแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเทสลาก็จะต้องได้ขึ้นไปอยู่บน S&P 500 แน่นอน
นักวิเคราะห์ชื่อดังบางคนมองว่าการร่วงลงมาจากสวรรค์ของหุ้นเทสลาครั้งนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบรรดาหุ้นที่มาแรงจนน่าตกใจ ก่อนหน้านี้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าหุ้นเทสลาว่าจะต้องสามารถขึ้นไปอยู่บนดัชนี S&P 500 ได้แน่เพราะสามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขการมีชื่ออยู่บนดัชนีชื่อดังได้ไม่ว่าจะเป็นการมีมูลค่าตลาดเกิน $8,200 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป การที่บริษัทสามารถประกาศผลประกอบการเป็นบวกได้ 4 ไตรมาสติดต่อกันและการมีสภาพคล่องเพียงพอตามที่มาตรฐานกำหนด ขาลงครั้งนี้เกิดจากความผิดหวังของนักลงทุนประกอบกับการเทขายหุ้นเทคฯ พอดี ง่ายๆ แค่นั้น
แม้ว่านักวิเคราะห์บางส่วนจะเริ่มมองว่าในที่สุดหุ้นเทสลาก็ได้เวลาปรับฐานตามกลไกตลาดปกติเสียทีแต่เรากลับมองว่าหุ้นเทสลายังมีความพร้อมที่จะสามารถปรับตัวขึ้นกลับมาได้อีกครั้งจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคตอนนี้หุ้นเทสลาอยู่ในจุดที่มีความเป็นไปได้ว่าจะดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
การซื้อขายหุ้นเทสลาเกิดขึ้นในกรอบขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมซึ่งถือเป็นขาลงครั้งแรกในปี 2020 ของหุ้นเทสลา อันที่จริงเมื่อพูดถึงขาลงในตอนต้นปีครั้งนั้นหุ้นเทสลาร่วงลงไปมากถึง 62% มากกว่าขาลงในตอนนี้ถึง 2 เท่า ในเดือนสิงหาคมเราเคยวิเคราะห์เอาไว้ว่าหุ้นเทสลาจะสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังจากหลุดกรอบธงสามเหลี่ยมไปแล้ว แต่การหลุดกรอบขาขึ้นใหญ่ออกไปแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของตลาดที่มีมากเกินไปซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ต้องลงหุ้นเทสลาจึงร่วงลงมาแรงกว่าปกติ
ขาลงครั้งนี้ของหุ้นเทสลาทำให้กราฟกลับเข้ามาอยู่ในกรอบขาขึ้นเดิมอีกครั้งแต่ข่าวดีก็คือเราได้พบเทรนด์ไลน์ขาขึ้นใหม่ที่ชันขึ้นมากกกว่าเดิมอีก (เส้นประ) สร้างความเป็นไปได้ว่าอาจจุเกิดจุดต่ำสุดใหม่ที่อยู่ในกรอบขาขึ้นที่ชันกว่าเดิมซึ่งอาจกลายเป็นสัญญาณขาขึ้นที่ดีในช่วงเวลาสั้นๆ
เมื่อหันมาพิจารณาอินดิเคเตอร์จะพบว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองอย่างเส้น 50 และ 100 วันยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นซึ่งตอนนี้หุ้นเทสลากำลังทดสอบแนวรับทั้งจากเส้นเทรนด์ไลน์และจากเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่หุ้นเทสลากำลังมีปฏิกริยากับแนวรับทั้งสองจนส่งให้ราคาสามารถยืนเหนือระดับราคา $350 ได้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตลาด
ที่สำคัญกว่านั้นต่อให้ครั้งนี้เทรนด์ไลน์ขาขึ้นอันใหม่จะไม่สามารถต้านแรงขาลง ณ ตอนนี้ได้ แต่แนวโน้มขาขึ้นก็ยังมีโอกาสอยู่มากด้วยเหตุผล 2 ประการ หนึ่งคือกราฟยังอยู่ในกรอบราคาขาขึ้นและสองคือกราฟยังมีแนวรับสำคัญให้พิจารณาอีกคือกรอบราคาด้านล่างเดิม หากท้ายที่สุดราคายังสามารถลงทะลุกรอบขาขึ้นลงไปได้อีกก็ยังมีแนวรับสุดท้ายอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและถ้านักลงทุนพิจารณาว่ารูปแบบกราฟในตอนนี้คือรูปแบบ Peak & Trough ก็ยิ่งทำให้หุ้นเทสลามีโอกาสวิ่งขึ้นมากกว่าลง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอวางคำสั่งซื้อเมื่อราคาสามารถลงไปยังกรอบราคาขาขึ้นด้านล่างได้ หลังจากนั้นจะรอหลักฐานยืนยันการดีดกลับของขาขึ้นซึ่งก็คือแท่งเทียนสียาวขนาดยาว 1 แท่ง
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะวางคำสั่งซื้อเมื่อสามารถยืนยันได้ว่าเทรนด์ไลน์เส้นประมีความแข็งแกร่งพอที่จะกลายเป็นกรอบราคาใหม่ที่ชันขึ้นกว่าเดิม
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งซื้อโดยทันที นี่คือจุดเข้าที่สวยมากสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้เพราะต่อให้ราคาหลุดลงไปก็ยังมีแนวรับสำคัญรอรับอยู่มากมาย
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $350
- Stop-Loss: $325 (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนวันอังคาร)
- ความเสี่ยง: $25
- เป้าหมายในการทำกำไร:$500
- ผลตอบแทน: $150
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6