Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน: คาดสัปดาห์นี้ SET จะยังคงผันผวนต่อเนื่อง - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (5-10 ก.ย.) จะ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,655 จุด (แนวรับ 1,600-1,580 จุด แนวต้าน 1,640-1,655 จุด) เราคาดว่า SET จะยังคงเคลื่อนไหวผันผวน โดยปัจจัยกดดันยังคงมาจากความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ การรายงานตัวเลข Non-farm payrol ล่าสุด จะลดลง WoW และอยู่ในกรอบที่ Market Consensus คาด แต่เรายังเชื่อว่าน้ําหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในกาประชุมเดือน ก.ย. ยังคงอยู่ที่ 75bps รวม ไปถึงกลางสัปดาห์จะมีการประชุม ECB ที่คาดว่าจะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps เช่นกัน ราคาน้ํามันดิบ ที่ฟื้นตัว จะเป็นแรงหนุนให้กลับมาลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งเรายังคงขอบ PTTEP เช่นเดิม สัปดาห์นี้ยังคง มีประเด็นสําคัญที่น่าติดตาม โดยเฉพาะรายงานเงินเฟ้อของไทย เดือน ส.ค. วันที่ 5 ก.ย. คาดอยู่ที่ 7.85% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. ที่ 7.61% การประชุม OPEC+ (5 ก.ย.) รวมไปถึงการประชุม ECB (8 ก.ย.) รายงาน GDPrช่วง 2Q65 ของยูโรโซน และญี่ปุ่น รายงาน PMI ของจีนและยูโรโซน ดุลการค้าของจีนและสหรัฐฯ กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% เรายังชอบพลังงาน ส่งออกอาหาร ร้านอาหาร และขนส่งในประเทศ เลือก PTTEP BAFS BEM BDMS BH CRC AWC MAKRO เป็นหุ้นเด่น - กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนักการลงทุนหุ้น ในพอร์ต 50% เราแนะนําลงทุนหุ้นในกลุ่ม Defensive เลือก BDMS BCH BH ADVANC นั้นส่งออก TFG ASIAN หุ้นในกลุ่มร้านอาหาร AU M MUD ZEN หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค และค้าปลีก MBK MAKROCPALL CPN CRC หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า BPP GULF GPSC BGRIM หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ BEM หุ้นเปิดเมือง BAFS AWC CENTEL PTG OPEC+ มีแนวโน้มคงกําลังการผลิต ในเดือน ต.ค. เนื่องจากอุปทานน้ํามันยังคงตึงตัว เรามองเป็นปัจจัยหนุนราคา น้ํามันดิบฟื้นตัว เลือก PTTEP เป็นหุ้นเด่น - เราคาดว่า OPEC จะเพิ่มการผลิตน้ํามัน 100,000 บาร์เรลต่อวัน สําหรับแผนการผลิตน้ํามนในเดือน ต.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจาก เดือน ก.ย. เรายังมองเป็นบวกต่อราคาน้ํามันดิบ โดย กรอบการปรับเพิ่มของกําลังผลิตน้ํามันดิบที่จํากัด จะทําให้อุปทานน้ํามันดิบยังคงตึงตัว ขณะที่ท่าที่ของรัฐมนตรี พลังงานของซาอุดีอาระเบีย ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า สัญญาน้ํามันดิบและปัจจัยพื้นฐานไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ระยะสั้น ราคาน้ํามันกลับมาได้ปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ติดตามการประชุม OPEC+ วันที่ 5 ก.ย. เราคาดหมายจะเห็นแรงซื้อกลับ หุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังปรับลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรายังคงชอบ PTTEP เป็นหุ้นเด่น
สัปดาห์นี้ติดตาม การประชุม OPEC รายงาน GDP ช่วง 2Q65 ของยูโรโซน และญี่ปุ่น รายงาน PMI ของจีนและยู โรโซน ดุลการค้าของจีนและสหรัฐฯ การประชุม ECB และรายงานเงินเฟ้อของไทยและจีน - 5 ก.ย. : สหรัฐฯ - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทําการเนื่องในวันแรงงาน / การประชุม OPEC+/ จีน - ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีน จากสถาบัน Caixin เดือน ส.ค. (คาด 54 จุด) / ไทย - รายงานเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. (คาด 7.859%) / ยโรโซน - รายงาน PMI รวม เดือน ส.ค. (คาด 49.2 จุด) // 6 ก.ย. : ญี่ปุ่น - ดัชนีการใช้จ่ายภาคครัวเรือน เดือน ก.ค. (คาด ลดลง 0.66MoM แต่เพิ่มขึ้น 4.2%YoY) / สหรัฐฯ - ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการผลิตจากสถาบัน ISM เดือน ส.ค. และ ดัชนี PMI รวมจาก S&P Global เดือน ส.ค. (คาด 45 จุด) 7/7 ก.ย. : จีน - รายงานการส่งสินค้าออก ของจีน เดือน ส.ค. (13.0%YoY) ปริมาณการนําเข้าสินค้าของจีน เดือน ส.ค. (1.89%YoY) ดุลการค้าของจีน สกูล เงินดอลลาร์ เดือน ส.ค. (คาดเกินดุล 9.3 หมื่นล้านเหรียญ) / ยูโรโซน – รายงาน GDP ในช่วง 2Q65 (คาดเพิ่มขึ้น 0.696QoQ และเพิ่มขึ้น 3.99%YoY) / สหรัฐฯ - ดุลการค้าสหรัฐฯ (คาดขาดดุลการค้า 7.05 หมื่นล้านเหรียญ) และรายงานด้านพลังงานจาก EIA // 8 ก.ย. : ยูโรโซน - การประชุม ECB (คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 75bps) / ญี่ปุ่น - รายงาน GDP ในช่วง 2Q65 (คาดขยายตัว 0.76MoM และขยายตัว 2.9%YoY) / สหรัฐฯ - รายงานสรุปภาวะ เศรษฐกิจ (Beige Book) จํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (คาด 2.4 แสนราย) และรายงานปริมาณ สํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ จากทาง IEA 7/9 ก.ย. : จีน - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.296MoM และเพิ่มขึ้น 2.89%YoY และรายงานดัชนีผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 3.1%) ปัจจัยทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่
6 M (แนวต้าน 61.50-62.50 / แนวรับ 58.5-58.00 /Stop loss 55.50) G MEGA (แนวต้าน 52.50-53.50 7 แนวรับ 50.00-49.50 /Stop loss 47.50) - VRANDA (แนวต้าน 7.5-7.65/ แนวรับ 7.15-7.05/Stop loss 6.75) SET ล่าสุด (2 ก.ย.) พักฐาน ขณะที่ทั้งสัปดาห์ปรับลดลงกว่า 22.6 จุด (-1.386) สะท้อนความกังวลต่อการเร่ง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย - ตอบรับความเป็นไปได้ในการปรับเร่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ํามันดิบที่ลดลง และ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติ - SET ล่าสุด (2 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,622.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด (+0.016) มูลค่า การซื้อขาย 61,344.55 ล้านบาท (สูงสุด 1,626.48 จุด และตําสุด 1,611.19 จุด) SET ยังคงผันผวนและ เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวันของการซื้อขาย ขณะที่ตลาดเร่มเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนหนึ่ง ถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 0.9 บาท ต่อเหรียญสหรัฐฯ (-2.5%Wow) ขณะที่การรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตลาดแรงงาน เพิ่มน้ําหนักความกังวลของตลาดต่อการที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. ภาพรวม SET สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลง 22.63 จุด (-1.386WoW) มูลค่าการ ซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 76,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.48%WoW
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities