Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,615 จุด เราคาดว่า SET มีโอกาสพักตัว หลังวานนี้ (21 มิ.ย.) ปรับลดลงกว่า 11.85 จุด (-0.73%) ใกล้เคียงกับการปรับลดลงของ ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนจากแรงกดดันต่อเนื่องหลังการประชุม FOMC สัปดาห์ก่อน ขณะที่ท่าทีของธนาคารกลางทั่วโลกที่จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ มีน้ําหนักใน ทิศทางเดียวกันกับเฟด รวมไปถึงการประชุม กนง. ของไทย (23 มิ.ย.) ที่คาดว่าจะมีการทบทวน ประมาณการ GDP ของไทยในปี 2564 กลยุทธ์การลงทุนเรายังคงเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการ ดําเนินการฉีดวัคซีน หุ้น Re-opening ที่ราคาหุ้น Laggard โดยเน้น หุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และหุ้นในกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้า (รับแผน PDP2022) เราเลือก AMATA WHA SPALI ORI NOBLE GPSC GULF EGCO และ BPP ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Cyclical อยู่ในช่วงกลางของ Early Recovery ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ทําให้เราให้น้ําหนักเพียงเก็งกําไร ในกลุ่ม oil play โดยเลือก PTTEP เป็นหุ้นเด่น เราคาดว่าการประชุม กนง. จะเป็น Sentiment เชิงลบต่อ SET - ติดตามการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (23 มิ.ย.) ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ที่ (1) มุมมองของ ธปท. ต่อ ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2564 เราคาดว่ามีโอกาสที่ ธปท. จะปรับลด GDP ในปี 2564 ต่ํากว่าระดับ 296 (รายงานการประชุม กนง. เดือน พ.ค. 64 ธปท. คาด GDP ปี 2564 ขยายตัว 2.09% และปี 2565 ขยายตัว 4.796) จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้ากว่าคาด จากการ แพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 3 ที่รุนแรงกว่าคาด ความเป็นไปได้ที่ลดลงจากการจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 และการเกิด Herd Immunity ภายในช่วง 1Q65 (ตาม Scenario ที่ 1 ในรายงานการประชุม กนง. เดือน พ.ค. 64) และจํานวนนักท่องเที่ยวในปี 2560 คาดว่าจะต่ํากว่า ประมาณการเดิมที่ 1.2 ล้านคน โดยเราคาดว่าในปี 2564 ไทยจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในอัตรา 2 แสนคน และ (2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงิน เราคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดอัตราเงินนําส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟู และสถาบันการเงิน (FIDF) ให้ต่ํากว่าระดับปัจจุบันที่ 0.23% เพื่อให้ธนาคารสามารถปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ ให้กับธุรกิจและครัวเรือน สอดคล้องกับนโยบาย ของภาครัฐฯ ที่ต้องการดูแลภาระหนี้ภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% และคาดว่า ธปท. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ําถึงปี 2565 แม้ ธปท. อยากให้สถาบันการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยธุรกิจเอกชนและครัวเรือน แต่บรรเทาด้วยการ ปรับลดลงอัตรา FIFD ทําให้ผลกระทบต่อกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินค่อนข้างจํากัด (Key Indicator หลักที่จะกระทบกลุ่มธนาคารมาจาก 3 ปัจจัยได้แก่ อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่หดตัว หรือเติบโตใน อัตราที่ช้ากว่าคาด การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น) แต่เราเชื่อว่าการปรับลด ประมาณการ GDP จะยังเป็น Sentiment เชิงลบต่อภาพรวมการลงทุน
• ราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่ม หลังความกังวลด้านอุปทานลดลง หนุน Oil Play เราเลือก PTTEP เป็นหุ้นเด่น สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 73.66 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.02 เหรียญ (+2.86) จากความกังวลด้านอุปทานที่ลดลง หลังการผลิตน้ํามันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างจํากัด และการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ที่ไม่มีความคืบหน้า รวมไปถึงการที่ นายอิบราฮิม ไรซี ประธานศาลฎีกา ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยนายไรซี ถือเป็นผู้นําหัวรุนแรงของอิหร่าน ที่เคยถูกรัฐบาลสหรัฐสังคว่ําบาตรในสมัยของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยที่ผ่านมานายไรซี เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ําบาตรที่ไม่ เป็นธรรมทั้งหมดต่ออิหร่าน ยิ่งทําให้น้ําหนักต่อการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 มีน้ําหนัก ลดลง ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุน Oil Play (PTT (BK:PTT) PTTEP SPRC และ BCP) เราแนะนําเพียง เก็งกําไร เพื่อลดความเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาด โดยเราเลือก PTTEP เป็นหุ้นเด่น
ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือน พ.ค. (คาดอยู่ที่ 5.74 ล้านยูนิต)
มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,615 จุด หุ้นแนะนําทาง เทคนิควันนี้ได้แก่ NSL YGG COTTO RBF และ CCP
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities