สรุป สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track ขณะที่พรรคเดโมแครต เตรียมเผยแผนการเพื่อจัดหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่สายการบิน, ระบบการขนส่ง, สนามบิน และ Amtrak ซึ่งบริษัทรถไฟโดยสารของสหรัฐ และจะจัดตั้งโครงการวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ในการช่วยเหลือผู้ผลิตเครื่องบินในด้านต้นทุนการจ้างงาน ซึ่งความ คืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกระตุ้นแรงซื้อให้สินทรัพย์ต่างๆปรับตัวขึ้น รวมทั้งทองคํา อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ สหรัฐสร้างมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้เมื่อราคาทองคําปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายทํากําไรสลับเข้ามา ทั้งนี้ แนะนําว่าหากราคา ขยับขึ้นให้จับตาโซนแนวต้านระดับ 1,851-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะหากราคาทองคําทดสอบโซนดังกล่าวยังไม่สามารถขึ้นไปยืนได้ นักลงทุนที่อาจแบ่ง ขายในลักษณะทยอยขาย โดยในระยะสั้นหากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทํากําไรระยะสั้นเพื่อหวังทํา กําไรจากการดีดตัวอีกครั้ง ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,827-1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ หาก ราคาทองคํา ยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคา โดยประเมินแนวรับบ ริเวณ ที่ 1,827-1,821 ดอลลาร์ต่อออ นซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวต้านดังกล่าวได้อาจเห็นการขยับขึ้นทดสอบ แนวต้านถัดไปโซน 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International