ประเด็นสำคัญหลังประชุมนักวิเคราะห์
- แผนการขยายสาขายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งปี 2562 ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 8 แห่ง ภายใต้ชื่อ Dohome และ Dohome to go คงแผนเปิดสาขาใหม่ในอนาคต 3 ปี ตั้งเป้าปี 2564 เปิดสาขาใหม่สูงถึง 50 แห่ง
- ปรับใช้กลยุทธ์เชิงรุกเข้าสู่เมือง(กรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่ม ด้วย Brand Dohome To Go เน้น พื้นที่ขนาดเล็กแต่มีศักยภาพ (ขนาด 300, 600 และ 1,000 ตารางเมตรโดยมีนโยบายการขายเลือกสินค้าตรงใจลูกค้า พร้อมการให้บริการครบคลุม โดยการแฝงตัวไปในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ (Hyper market) คาดหวังได้ประโยชน์ทางอ้อมจากกลุ่มลูกค้าเพิ่ม
- ปี 2562 เปิดตัวสาขาใหม่แล้ว 2 สาขา เป็น Dohome to go ที่จรัญสนิทวงศ์ และ สาธร ค่อนข้างได้รับการตอบรับดี โดยมีแผนเปิดตัวอีก 6 แห่งในปีนี้ซึ่งเตรียมพื้นที่แล้วเกือบ100%
- เน้นเพิ่มสินค้า House Brand ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างกำไร ใน 2H62 มีสัดส่วนการขาย 16.7% จาก 1H62 ที่ 14.9% ตั้งเป้า ในปี 2065 ทำได้ 20% คาดจากการรุกตลาดสินค้าใหม่พร้อมสาขา Dohome to go
- ผลประกอบการ 1H62 มีกำไรสุทธิ 439 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 49%YoY ได้แรงหนุนจากมาร์จิ้นที่ปรับดีขึ้นเป็น 15.7% จาก 15.3% เพิ่มจากสัดส่วนสินค้า House Brand ที่ปรับดีขึ้น และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลง 2.7%YoY ขณะที่มีรายได้ที่ลดลง 1.6% YoY อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งมีผลต่อแรงซื้อ เห็นได้จาก SSSG ที่-4.3%YoY
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามองว่า บริษัทมีนโยบายการบริหารที่ดีจากกรเพิ่มประสิทธิภาพของกำไร ด้วยเพิ่มสินค้ามีมาร์จิ้น ในรูปแบบ ของ House Brand ซึ่งมีระดับมาร์จิ้น 31-35% จากสินค้าปกติที่มีมาร์จิ้นระดับ13-18% รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหารได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อกำไรสุทธิที่เห็นการเติบโต
- อย่างไรก็ดีการเติบโตของรายได้ยังคงถูกจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลทางตรงต่อกลุ่มลูกค้าของ DOHOME ที่มีสาขาอยู่ในต่างจังหวัด เห็นได้จาก SSSG ที่มีผล -4.3% ทั้งนี้เราคาดหวังการฟื้นตัวของรายได้จะได้รับโอกาสดี จากนโยบายของภาครัฐต่อการสนับสนุนผู้มีรายได้น้อย และการเร่งผลักดันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ DOHOME ขณะที่รายได้ราว 24-30% มาจากการขายสินค้าเหล็กซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงกรณีราคาเหล็กมีความผันผวนตามราคาตลาดโลก
- จากราคาตลาดล่าสุดที่ 9.50 บาท ปรับเพิ่ม 21% จากราคา IPO ที่ 7.80 บาท สอดคล้องกับราคาเป้าหมายของ Consensus ที่ให้ไว้ราว 9.5-10 บาท อย่างไรก็ดีบริษัทมีประเด็นที่น่าติดตาม 1) จากการฟื้นตัวของรายได้ที่เพิ่มขึ้น กรณีแรงซื้อตอบรับกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยสนับสนุน SSSG ให้พลิกกลับมาเป็นบวก 2) กลยุทธ์เข้าสู่เมืองด้วย Dohome to go ซึ่งส่งผลทั้งแรงซื้อ และการเพิ่มระดับมาร์จิ้น ด้วยสินค้า House Brand จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ จะเป็นส่วนช่วยหนุนภาพรวมของผลประกอบการ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities