ในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นมุมมองทิศทางของการที่จะต้องติดตามฝั่งของประเทศอังกฤษที่เกี่ยวเนื่องกับสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง ที่จะต้องคอยติดตามเกี่ยวเนื่องกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษและการเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างมาก
โดยประเด็นหลักคือนายกรัฐมนตรีอังกฤษถูกบีบให้ลาออกเพื่อจะต้องคงอยู่ในสหภาพยุโรปของอังกฤษเหมือนเดิมโดยที่ถูกกดดันอย่างหนักจากพรรคอนุรักษ์นิยมของตัวเองให้ลาออกหรือไม่ก็กำหนดวันลาออกเพื่อเตรียมหาเสียงสนับสนุนตามแผนของ Brexit โดยที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากแกนนำระดับอาวุโสภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเองเพื่อให้มีการปรับปรุงจุดยืนทางการเมืองของตนเองให้เข้มแข็งแต่ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณใด ๆ จาก นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่จะมีการบ่งบอกว่าจะมีการลาออกหรือไม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษยอมรับว่าไม่สามารถที่จะหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปโดย NO Deal ซึ่งสมาชิกสภาสามัญลงมติไม่เห็นชอบถึงสองครั้งแต่รัฐมนตรีอังกฤษยังมองถึงความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่กระบวนการประชุมสภาในรัฐสภาอังกฤษเป็นครั้งที่สาม
ซึ่งนักลงทุนตลาดเงินต่างมีการจับตามองในการเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษในสัปดาห์นี้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรและจะมีการเจรจากับสหภาพยุโรปแบบไหนรวมทั้งในการนำเข้าไปยังรัฐสภาอังกฤษที่จะสามารถเข้าสู่กระบวนการหาเสียงสนับสนุนในการออกจากสหภาพยุโรปในครั้งนี้ได้หรือไม่โดยที่อังกฤษมีกำหนดที่จะต้องออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 12 เมษายนนี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหรือดำเนินการอื่นทางใดทางหนึ่ง
ดังนั้นนักลงทุนตลาดเงินต่างเฝ้ามองในการเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิดซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับสกุลเงินปอนด์อย่างแน่นอนโดยที่สกุลเงินปอนด์เทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์หรือเรียกว่า GBPUSD ในทิศทาง ในช่วงนี้ยังวิ่งอยู่ในกรอบซึ่งมีการดีดตัวขึ้นในหลายชั่วโมงที่ผ่านมาจึงควรติดตามว่าเหตุการณ์ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นทั้งการประท้วงของอังกฤษและการกดดันให้ลาออกของนายกรัฐมนตรีจะส่งผลให้กับสกุลเงินปอนด์หรือไม่
อีกปัจจัยที่จะต้องติดตามก็คือในส่วนของ สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ในตอนนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจนกว่าจีนจะทำตามข้อตกลงต่อไปอย่างไม่มีกำหนด " เราไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการยกเลิกภาษี แต่กำลังหารือในเรื่องที่ว่าจะยังคงมีมาตรการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนต่อไปเป็นเวลานาน เนื่องจากเราต้องการสร้างความมั่นใจว่า ถ้าเราทำข้อตกลงกับจีนแล้ว จีนจะต้องทำตามข้อตกลง" ปธน.ทรัมป์กล่าว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นฟิวเจอร์ทั้งตลาดมีการปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและท่าทีอาจจะมีการอ่อนค่าลงทำให้มีการกดดันสกุลเงินเยน ให้มีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันประกอบกับในส่วนของสกุลเงินออสเตรเลียก็ยังมีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องรวมทั้งในส่วนของสกุลเงินหยวนที่ยังมีการอ่อนค่าลงเช่นเดียวกัน
โดยปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่นักลงทุนตลาดเงินต่างเฝ้าจับตามองและรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณในการเจรจาในครั้งนี้หรือไม่และในส่วนของประเทศจีนจะมีการส่งสัญญาณในการร่วมการเจรจาหรือไม่เพราะมักจะสร้างความผันผวนให้กับสกุลเงินหยวนสกุลเงินออสเตรเลียและสกุลเงินเยน อย่างมากในสัปดาห์นี้
สามารถติดตามข่าวสารแบบรวดเร็วได้ตามทวิตเตอร์นี้ @kun_purich