Cabinet in focus
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ สําหรับผู้ที่ได้เข้าสะสมหุ้นเพิ่ม ณ บริเวณดัชนี SET 1370 จุดตามที่เราแนะนํา สามารถถือครองหุ้นในส่วนดังกล่าวต่อไป ได้ แม่ในระยะสั้นดัชนีอาจจะยังมีความผันผวนบ้าง แต่หากเทียบเคียงระดับ ปัจจุบันกับระดับกรณีฐานและระดับเป้าหมายของเราในปีหน้าที่ 1455 และ 1560 จุด (รูปที่ 1) ต้องบอกว่าอัตราส่วน Reward-to-Risk ยังคงดูน่าสนใจ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ Top pick ของเราประจําการลงทุนไตรมาส 1/25 ยังคง ได้แก่ AEONTS, CPALL (BK:CPALL), JMT, PTT (BK:PTT), TISCO, WHA, DIF, LHHOTEL, SCB, BDMS
• Cabinet: ติดตามการประชุมครม.ในวันนี้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่
1) กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2568 ที่ระดับ เติม 1-3% แต่จะมีการกําหนดว่า จะต้องดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ใน ระดับที่มีเสถียรภาพให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ เข้าไปในกรอบด้วย หากเกิดขึ้นจริง ประเมินเป็นเป้าหมายที่เอนเอียงไปในทิศทาง Dovish มากขึ้น ซึ่งจะทําให้สมมติฐานการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ไทย 0.50% ตลอดทั้งปี 2025 ของเรามีโอกาสเป็นจริงมากขึ้น ซึ่ง หากเทียบเคียงกับคาดการณ์ของตลาดปัจจุบันที่มองว่ากนง.จะลด ดอกเบี้ยในปีหน้าเพียง 0.25% ทําให้เรามองว่าโอกาสที่ Bond yield รุ่นสั้นของไทยจะปรับลงมากกว่านี้ยังมีอยู่
2) กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอมาตรการ Easy E-receipt เป็นของขวัญ ปีใหม่ 2568 เพื่อช่วยในการกระตุ้นกําลังซื้อของประชาชน วงเงิน 5 หมื่นบาท ซึ่งถึงแม้วงเงินในการซื้อสินค้าทั่วไปและบริการท่องเที่ยว คราวนี้จะลดลงเหลือไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่เรามองว่ายังดีกว่าไม่มี โครงการอะไรออกมาเลย มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีก ที่เกี่ยวข้องต่อไป อาทิ BJC, CPALL, CPAXT, CRC, COM7, HMPRO
3) กระทรวงแรงงานเตรียมเสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีในการ กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ําปี 2568 โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ําเพิ่มใน อัตราวันละ 7 -55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9) โดยมีอัตราสูงสุดวันละ 400 บาท และอัตราต่ําสุด คือ วันละ 337 บาท ทั้งนี้ มองว่าประเด็น ดังกล่าวยังอาจมีความยืดเยื้อในการบังคับใช้จริง เนื่องจากมี ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย แต่หากสุดท้ายค่าแรงขั้นต่ํามีการปรับขึ้นได้จริง ในปีหน้า ประเมินจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคไม่ มากก็น้อย ซึ่งในอดีต Sector ที่มักปรับตัวตอบรับต่อประเด็นดังกล่าว ได้ดีที่สุดจะได้แก่กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มไฟแนนซ์ ซึ่งยังคงเป็นหุ้น 2 กลุ่มที่เราแนะนํา Overweight ต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 1 ปีหน้า จากมาตรการภาครัฐต่างๆที่ออกมาสนับสนุนต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities