ตลาดหุ้นปิดต่ำลงเมื่อวานนี้เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของ Microsoft (NASDAQ:MSFT) และ Meta ขณะที่ Amazon (NASDAQ:AMZN) และ Apple (NASDAQ:AAPL) จะรายงานผลประกอบการในคืนนี้ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะช่วยให้ตลาดวันนี้ดีขึ้นหรือไม่ รายได้ของ AWS ก็อยู่ในแนวเดียวกัน ขณะที่ Apple ให้คำแนะนำค่อนข้างอ่อนสำหรับยอดขายในไตรมาสหน้า
นอกจากนี้ วันนี้ยังมีรายงานการจ้างงาน ซึ่งอาจมีความสำคัญไม่แพ้ผลประกอบการเหล่านี้ โดย ประมาณการ ระบุว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 4.1% ทั้งนี้ความเห็นของนักวิเคราะห์จะยังไม่แน่ชัด เนื่องจากการคาดการณ์มีช่วงกว้างโดยคาดการณ์ต่ำสุดนั้นอยู่ที่ -10,000 ตำแหน่ง และสูงสุดอยู่ที่ 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ Bloomberg มีตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 136,000
ความเสียหายทางเทคนิค
เกิดความเสียหายอย่างชัดเจนต่อกราฟเมื่อวานนี้ โดยดัชนีฟิวเจอร์สและดัชนี cash ของ S&P 500 ร่วงหลุดจากรูปแบบ rising wedge โดยตลาดเงินสดยังร่วงลงต่ำกว่าทิศทางขาขึ้นที่กำลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย การหลุดผ่านระดับ 5,690 อาจเปิดทางกลับไปยังระดับ 5,600 ซึ่งเป็นจุดที่ตลาดเคยอยู่ตอนวันที่มีการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนกันยายน
ปัญหาเดียวสำหรับวันนี้คือความผันผวนโดยนัย (IV) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อวานนี้ โดยที่ VIX แตะระดับ 23.1 และ VIX 1-Day อยู่ที่ 19.2 แม้แต่ VVIX ก็พุ่งขึ้นเกือบ 122 ทำให้มีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มากขึ้นในวันนี้ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการปรับขึ้น แม้ว่าตัวเลขปกติจะบ่งชี้ว่าหุ้นควรจะร่วงลงก็ตาม ระดับ 23 ถือว่าสำคัญมากเนื่องจากเป็นแนวต้านสำคัญของ VIX มาเป็นเวลานาน หาก VIX พุ่งขึ้นในวันนี้ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่น่าสนใจ แต่โอกาสที่จะเกิด Vanna squeeze หลังรายงาน non-farm ยังคงมีสูง
ตลาดพันธบัตรก็แสดงสัญญาณของความกังวลเช่นกัน โดยดัชนี MOVE พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปี
นักลงทุนสามารถมองเห็นได้จากกราฟว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีนั้นอยู่ในจุดที่หากข้อมูลออกมาสูงกว่าที่คาด ก็อาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างมากและกลับเข้าสู่ระดับ 4.5% ถึง 4.6% อีกครั้ง
ดัชนีความสัมพันธ์โดยนัย (implied correlation) ระยะเวลา 1 เดือนพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากความผันผวนโดยนัยสำหรับ Amazon และ Apple คาดว่าจะลดลงในวันนี้หลังจากประกาศผลประกอบการแล้ว ซึ่งหมายความว่าหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (Mag7) ทั้งหมด ยกเว้น Nvidia (NASDAQ:NVDA) ได้กลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้ว