4Q24 Investment Outlook
• 4Q24: เราออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4/67 ประเมินตลาด หุ้นไทยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี จะสามารถแกว่งทรงตัวต่อเนื่องจาก ไตรมาสที่ 3 ได้ แม้ Upside จะเริ่มถูกจํากัดจาก Valuation ที่สูงขึ้น แต่คาด Downside ก็จะถูกจํากัดจากสภาพคล่องที่เอ่อล้นจากหลายทิศทางด้วยกัน ประเมินกรอบแนวต้านของ SET Index ที่ระดับ 1480 และ 1520 จุด ส่วน แนวรับประเมินที่ 1400 และ 1370 จุดตามล่าดับ
• Strategy: มองกลยุทธ์ Stock selection จะยังคงเป็นกุญแจสําคัญสําหรับการลงทุนไตรมาสที่ 4 นี้ โดยเราชอบหุ้นกลุ่ม Domestic cyclicals ที่อิงกับ การเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีก อสังหาฯ ไฟแนนซ์ เนื่องจากคาดหวังปัจจัยกระตุ้นทางด้านนโยบายเศรษฐกิจที่ รัฐบาลน่าจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่นับรวมกับการเข้าสู่ช่วงเทศกาล และ Upside surprise ที่อาจเกิดขึ้นหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ําในช่วง ถัดไป ในขณะที่กลุ่ม Global cyclicals ที่อิงกับเศรษฐกิจภายนอกนั้น แม้ Valuation ของหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่จะยังอยู่ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย แต่เราแนะนําให้ หลีกเลี่ยงไปก่อน เนื่องจากไม่มั่นใจต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้ามากนัก
• Picks: โดยสรุป กลุ่มหุ้นแนะน่าของเราประจําไตรมาส 4/67 ได้แก่
1) กลุ่มหุ้นที่เตรียมเข้าสู่ High season ของการบริโภคและการท่องเที่ยว เลือก HMPRO, ERW
2) กลุ่มหุ้น Domestic ที่มีเงินปันผลสูง และยังคงมี Valuation ต่ํากว่า ค่าเฉลี่ย เลือก AP, ICHI
3) กลุ่มกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) และทรัสต์เพื่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ (REITs) ที่ยังคงมีระดับ Dividend yield และ Dividend yield gap สูงกว่าค่าเฉลี่ย เลือก DIF, CPNREIT
4) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะถูกน้าเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป เลือก COM7, SAWAD
5) กลุ่มหุ้นที่จะได้อานิสงส์ เลือก AEONTS, KTC หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ําในช่วงถัดไป
• Japan: สําหรับเหตุการณ์ที่น่าสนใจในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่ การ เลือก าแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ของญี่ปุ่น ซึ่งปรากฏว่าเป็นทางด้านนาย ชิเงรุ อิชิบะ ได้รับเลือก ซึ่งจะทําให้เขาขึ้นเป็นนายกฯญี่ปุ่นคนใหม่แทน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกฯคนเดิมที่มีกรณีอื้อฉาวหลายเรื่องก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นตอบรับเชิงลบทันทีเช้าวันนี้ เนื่องจากนายอิชิบะ เป็นผู้ ที่มีแนวความคิดสนับสนุนกระบวนการ Normalization ของธนาคารกลาง ญี่ปุ่น ซึ่งทําให้นักลงทุนกังวลว่ากระบวนการเข้มงวดนโยบายการเงินเช่น การขึ้นดอกเบี้ย จะกลับมาเกิดขึ้นรวดเร็วอีกครั้ง นอกจากนั้น นายอิชิบะ ยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดที่ต้องการปรับขึ้นภาษี Capital gain tax อีก ด้วย ล่าสุดนักลงทุนกลับมาเพิ่มโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BoJ ในปีนี้อีกครั้ง โดยมีความน่าจะเป็นอยู่ที่ 30% เพิ่มขึ้นจากวันก่อน หน้าที่ 21% ส่งผลให้เงิน JPY ปรับแข็งค่าอย่างมีนัยสําคัญ และทําให้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงเช้านี้กว่า 4% มองเป็นปัจจัยเฉพาะตัวของญี่ปุ่นที่ เกิดขึ้น
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities