Thailand Focus / Trade data
• SET: คาด SET Index เปิดตลาดทรงตัว โดยมีปัจจัยภายในที่น่าติดตาม วันนี้ได้แก่การจัดงาน Thailand Focus (รายละเอียดด้านล่าง) ส่วนปัจจัย ต่างประเทศ แนะติดตามการรายงานผลประกอบการของหุ้น NVIDIA ซึ่งน่าจะทําให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีความเคลื่อนไหวผันผวนในคืนนี้ และท่าให้ นักลงทุนบางส่วนอาจอยู่ในโหมด Wait & See วันนี้ไปก่อน ในเชิงกล ยุทธ์ ยังคงแบ่งเป็น 2 แนวทางสําหรับผู้ที่ถือหุ้นอยู่ กล่าวคือ 1) ถือ Let profit run ไปจนถึงการประกาศรายชื่อครม.และการแถลง นโยบายของรัฐบาลใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีสุดท้ายทางการเมืองในระยะสั้น หรือ 2) ถือ Let profit run ไปจนถึงระดับยุติธรรมของ SET ที่ 1370 จุด แล้วหาจังหวะลดพอร์ตลง
• Thailand Focus: สําหรับปัจจัยวันนี้ แนะติดตามการเริ่มต้นของงาน Thailand Focus ซึ่งจะมีขึ้นไปจนถึงวันที่ 30 ส.ค. บนหัวข้อ “Adapting to a Changing World” ทั้งนี้ จากการเก็บสถิติของเราในช่วง 5 ปีน้อย หลังพบว่า การจัดงานดังกล่าวไม่ได้ส่งผลเชิงบวกใดๆต่อภาพ SET Index แถมดัชนีมักมีการปรับตัว Sideways down หลังจาก ผ่านพ้นช่วง 1 สัปดาห์แรกไปแล้ว (รูปที่ 1) สอดคล้องกับท่าทีของ นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ที่ต่างก็มีทิศทางขายสุทธิหุ้น ไทยในช่วง 1 เดือนหลังจากการจัดงานเสร็จสิ้น โดยในรอบ 5 ปีที่ ผ่านมา มียอดขายสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 9.5 และ 2.6 พันล้านบาทตามล่าดับ (รูปที่ 2) สําหรับการจัดงานในปีนี้ เราเข้าใจว่าอาจมาพร้อมกับความ คาดหวังในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ต้องอย่าลืมว่าดัชนี SET ก็ปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วเช่นกัน จึงประเมินว่าแม่ดัชนีอาจ ไม่ได้ปรับลงเหมือนกับสถิติในอดีต แต่การจะให้ปรับตัวขึ้นแรงๆต่อ จากนี้ในระยะสั้นก็อาจเป็นเรื่องยากเช่นเดียวกัน
• Exports: หลังจากที่ชะลอไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา (-0.3%) ปรากฏว่า เดือนก.ค. การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวได้ถึง 15.2% (รูปที่ 3) สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 7.0% อย่างมีนัยสําคัญ แม้จะตัดทองคํา ออกไปแล้ว ก็ยังขยายต้วได้ 11.0% การขยายตัวเกิดขึ้นในทุกหมวดสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร/อาหาร/อุตสาหกรรม ดังนี้
1) สินค้าเกษตรกรรมที่ขยายตัวโดดเด่นได้แก่ ยางพารา (+55%), ข้าว (+16%), ไก่แปรรูป (+12%), ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง (+16%)
2) สินค้าอาหารที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง (+20%), อาหารสัตว์เลี้ยง (+27%), ผลไม้กระป๋อง (+23%), น้ํามะพร้าว (40%)
3) สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ (+83%), เคมีภัณฑ์ (+38%), ถุงมือยาง (+25%), วงจรพิมพ์ (+8%) มีโอกาสเห็น
4) มองตัวหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ขยายตัวโดดเด่นข้างต้น การซื้อกลับช่วงสั้น จากราคาหุ้นหลายตัวที่มีการปรับฐานมาก่อนหน้านี้ อาทิ STA, TEGH, NER, CPF, GFPT, TFG, TU, AAI, ITC, MALEE, COCOCO, STGT, KCE เป็นต้น
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities