🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

เตรียมพอร์ตรับเม็ดเงิน THAI ESG FUND

เผยแพร่ 26/06/2567 09:43
SETI
-

ในระยะสั้นมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ที่ทางการประกาศออกมา น่าจะ สร้าง SENTIMNET เชิงบวกให้กับ SET INDEX แต่ IMPACT ที่จะเกิดขึ้น จากเม็ดเงินลงทุนจริงน่าจะเริ่มเห็นได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ค.67 (บบสมมุติฐานว่า ครม. เห็นชอบในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า) ในระยะนี้จึง ประเมินว่า SET INDEX เคลื่อนไหวในลักษณะ SIDEWAY UP ในเชิงกล ยุทธ์ นักลงทุนควรเตรียมพอร์ตการลงทุนเพื่อรอรับ เม็ดเงินลงทุนที่จะ เกิดขึ้นจาก THAI ESG FUND รอบใหม่ ซึ่ง วันก่อนหน้าเราได้น าเสนอหุ้น ESG ยอดนิยมซึ่งถือโดย THAI ESG เดิม, หุ้น SETESG ที่ถูก SHORT SELL ลงมามาก และ หุ้นที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ า ซึ่งหุ้นเหล่านี้ น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุน นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่นเช่นหุ้น PER ต่ า และมีESG RATING สูง หรือหุ้นที่ ESG สูง และ CG สูงเป็นต้น ภาพรวมของ SET INDEX น่าจะมีแนวโน้มที่ค่อยๆ ดีขึ้น และน่าจะเห็นผล ชัดเจนหลังจากเม็ดเงิน THAI ESG รอบใหม่เข้ามา คาดกรอบวันนี้ 1310 –1326 จุด หุ้น TOP PICK เลือก ADVANC, BDMS และ CPN

SEASON CHANGE เตรียมรับมือกับ “ลานีญา”

สภาพภูมิอากาศปัจจุบัน เริ่มส่งเห็นสัญญาณอ่อนก าลังลงของปรากฏการณ์ เอลนี โญ สะท้อนจาก ONI INDEX เดือน เม.ย. 67 ทยอยปรับตัวลดลงเหลือ 0.7 จุด ซึ่งใกล้ กับภาวะปกติที่ 0.5 จุด ขณะที่ระยะถัดไปมีแนวโน้มเข้าสู่ฤดูกาลเปลี่ยนผ่านจาก “เอลนี โญ” (แห้งแล้ง)  “ลานีญา” (ฝนชุก)

ส่วนบ้านเรา กรมอุตุนิยมวิทยาเผยว่า ประเทศไทยปีนี้เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 และประเมินว่าจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือน ต.ค. 67 ขณะที่สถานการณ์ ฝนในไทยล่าสุด (กราฟเส้นสีแดง) เร่งตัวสูงกว่าปีที่ผ่านมา และคาดหมายว่าในช่วง เดือน มิ.ย. – ต.ค. 67 อาจเห็นปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติ 10% ในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม แม้ในปีนี้จะมีความเสี่ยงจากปรากฏการณ์ลานีญา แต่ภาครัฐมีแนวทาง ในการรับมือกับการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น โดยวานนี้ ครม. ได้มติอนุมัติงบ กลางรายการส ารองจ่ายกรณีฉุกเฉิน และจ าเป็นเร่งด่วนปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 7,606.5 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบประมาณในการแก้ปัญหาน้ าท่วมปี 2567 และ เตรียมการแก้ปัญหาน้ าแล้งปี 2568

สรุป การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนสูง และก าลังเข้าสู่ภาวะ ลานีญา หรือ ปริมาณน้ าฝนเพิ่มขึ้น มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้น CKP STA STGT TVO และกลุ่มโรงพยาบาล ชอบ BDMS BH BCH เป็นต้น

FLOW ต่างชาติไหลออกจากเอเชียใต้ หวังแรงขายจะค่อยๆ ลดลงบ้าง ตามสัญญา FUTURES ที่ลดลง + มีกองทุนพยุงหุ้น

การก้าวสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของ FED ECB BOE ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของ FUND FLOW ต่างชาติในช่วง 1H67 เอนเอียงไปที่หุ้นกลุ่ม TECH มากขึ้น สะท้อนได้ จากตลาดหุ้น NASDAQ ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น +18%YTD เช่นเดียวกับการ เคลื่อนไหวของ FUND FLOW ในตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่เอนเอียงไปที่ตลาดหุ้นในแถบ เอเชียเหนือเป็นหลัก (ส่วนใหญ่มีหุ้นกลุ่ม TECH ประกอบ) โดยต่างชาติซื้อสุทธิตลาด หุ้นญี่ปุ่นมากสุด +3.84 หมื่นล้านเหรียญ รองลงมาคือ เกาหลีใต้ +1.64 หมื่ล้าน เหรียญ และไต้หวัน + 4.7 พันล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเหล่านั้นปรับตัวขึ้นแรง ตั้งแต่ 5%-27%(YTD)

ในทางตรงกันข้ามกัน ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นในแถบเอเซียใต้ อาทิ ตลาดหุ้นไทย ถูกขายสุทธิมากสุด -3.07 พันล้านเหรียญ ตามมาด้วยเวียดนาม -1.6 พันล้าน เหรียญ, ฟิลิปปินส์-534 ล้านเหรียญ เป็นต้น ด้วย FUND FLOW ต่างชาติที่ไหลออก จากตลาดหุ้นในแถบเอเซียใต้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาด หุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงสุดในภูมิภาค -6.8%YTD

ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะไทยในระยะถัดไป มีโอกาสสูงที่ FUND FLOW ทั้งต่างชาติ และ กองทุนจะทยอยไหลกลับเข้ามาได้ และส่งผลให้SET INDEX ทยอยปรับตัวขึ้นอย่างมี เสถียรภาพ โดยมี 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

 สัดส่วนการ SHORT SELL ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.67 ที่ ตลาดฯ มีสัดส่วน SHORT SELL สูงถึง 16% ของมูลค่าซื้อขาย โดยล่าสุดสัดส่วน SHORT SELL เหลือ 9.89% ซึ่งต่ ากว่าค่าเฉลี่ย SHORT SELL ใน รอบ 1 เดือนที่ 13.4% และค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี(YTD) ที่ 11.4%

 สัญญา SET50 FUTURES ต่างชาติทยอยกลับมาซื้อ 3 ติดกว่า 5 หมื่น สัญญา ส่งผลให้มูลค่าซื้อสุทธิสะสมลดลงจาก 1.93แสนล้านบาท ลงสู่ 1.43 แสนล้านบาท(ข้อมูลตั้งแต่ 21 พ.ค.67-ปัจจุบัน)

 ความคาดหวังเม็ดเงินจาก THAIESG ใหม่ ที่คาดจะไหลกลับเข้ามาหนุน ตลาดหุ้น 6 – 7 หมื่นล้านบาท(ใกล้เคียงกองทุน LTF) และหนุนให้กองทุนลด สถานะเงินสดและซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นในพอร์ตช่วงเวลาที่เหลือของปี โดยหลังจากที่ มีกระแสกองทุน THAIESG ใหม่สถาบันฯ ก็ซื้อสุทธิหุ้นไทยมา 4 วันติดต่อกัน รวมมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านบาทแล้วซึ่งฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าประเด็นนี้น่าจะหนุน ให้กองทุนทยอยซื้อสะสมหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม THAIESG มากขึ้น เรื่อยๆ

แม้ในช่วง 1H67 FLOW ต่างชาติจะไหลออกจากตลาดหุ้นแถบเอเชียใต้(ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์) และกดดันดัชนีปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ตามในช่วง 2H67 น่าจะเห็น FUND FLOW ไหลสวนทางจากครึ่งแรก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่มีปัจจัยหนุนทั้งจากการมี กฎ UPTICK จนท าให้สัดส่วนการ SHORT SALE ลดลงอย่างมีนัยฯ และกองทุน THAIESG ใหม่ ที่คาดจะพยุงหุ้นไทยได้คล้ายกับกองทุน LTF อีกทั้งสัญญา SET50 FUTURES ต่างชาติก็ทยอยกลับมาซื้อ 3 ติดกว่า 5 หมื่นสัญญา

ค้นหาหุ้น ESG ดีเลิศ น่าลงทุน ฝ่ายวิจัยฯ เห็นพัฒนาการหุ้นใน SETESG ได้นับความสนใจในช่วงนี้โดยวานนี้ดัชนี SETESG +0.43% OUTPERFORM กว่าดัชนีอื่นๆ อาทิดัชนี MAI ทรงๆตัว +0.11%, SET100 +0.12%, SET50 +0.13% และ SET +0.18% หลังเห็นความคืบหน้ากองทุน THAIESG ใหม่ น่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาหนุนตลาดหุ้นในช่วงทีเหลือของ ปี

และในมุม VALUATION (ณ 25 มิ.ย. 67) ถือว่าดัชนี SETESG มีความน่าสนใจ มากกว่า SET ในช่วงเวลานี้ คือ SETESG มีขนาด MARKET CAP 10.8 ล้านล้าน บาท คิดเป็นสัดส่วน 66% ของ SET

แต่ในมุม FINANCIAL RATIO ของ SETESG ถือว่าดีกว่า SET ทุกมิติ ทั้งมี TRAILING P/E เพียง 14.96 เท่า ถูกกว่า SET 17.29 เท่า, มี PBV 1.22 เท่า ถูกกว่า SET 1.24 เท่า และยังมี DIVIDEND YIELD สูงถึง 3.80% สูงกว่า SET ที่ 3.48%

ฝ่ายวิจัยฯ ท าการคัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงสุด “AAA” (มีคะแนนเกิน 90 จาก 100 คะแนน) และยังมี CG REPORT อยู่ในระดับ "ดีเลิศ" หรือ 5 คะแนน น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายอันดับต้น ที่เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันฯ และ เม็ดเงินจาก THAIESG FUND ใหม่จะไหลเข้า ได้ผลลัพธ์ 29 บริษัท

จากผลลัพธ์ดังกล่าว เลือกฝ่ายวิจัยฯ เลือกหุ้น ESG ดีเลิศ น่าลงทุน ดังนี้

1. หุ้น ESG ดีเลิศ พื้นฐานเด่น ราคาย่อตัวลงมาลีก คือ SCC, CRC, PTTGC, BGRIM, BCP, AMATA, THCOM

2. หุ้น ESG ดีเลิศ ได้ปัจจัยสนับสนุนจากไตรมาส 3 เปลี่ยนเข้าสู่ช่วงลานีญา STA, STGT, CKP

3. หุ้น ESG ดีเลิศ ได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ CPALL (BK:CPALL), KBANK (BK:KBANK), WHA

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย