NVIDIA รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เพิ่มเงินปันผล 150% พร้อมประกาศแตกหุ้น 10 ต่อ 1
ทุกสายตาจับจ้องไปที่การรายงานผลประกอบการของ Nvidia
Nvidia ได้มีการรายงานผลประกอบการหลังการปิดตลาดสหรัฐในเวลา 03:20 ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่มีน้ำหนักต่อดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq เป็นอย่างมาก โดยมีน้ำหนักต่อดัชนีหุ้นดังกล่าวจนทำสถิติสูงสุด ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่รายงานผลประกอบการในครั้งนี้ ว่าจะส่งผลต่อตลาดอย่างไร
ความคาดหวังยังคงอยู่ในระดับสูงสำหรับรายได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านลบต่อ NVDA ในกรณีที่รายได้ออกมาต่ำกว่าคาด เนื่องจากน้ำหนักของรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3% ของรายได้สุทธิของ S&P 500
เมื่อใกล้ถึงวันศุกร์ ตลาดออปชั่นคาดการณ์ว่า Nvidia จะแกว่งตัว 8.6% ในช่วงหลังผลประกอบการ จากข้อมูลของ Citigroup การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้ S&P 500 แกว่งไปมา 0.4% ซึ่งส่งผลกระทบใหญ่เป็นอันดับ 4 ต่อเกณฑ์มาตรฐานในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
การตั้งความคาดหวังไว้สูงอย่างเห็นได้ชัดก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เนื่องจากได้มีแรงซื้อจำนวนมากของ AI FOMO กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ผลประกอบการของ NVIDIA ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 อย่างละเอียดนะครับ
รายได้ 26.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคาดการณ์ 24.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปรับกำไรต่อหุ้น $6.12 จากคาดการณ์ $5.65
รายรับจากการเล่นเกม 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคาดการณ์ 2.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับปรุงแล้ว 78.9% จากคาดการณ์ 77%
รายได้จากศูนย์ข้อมูล 22.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคาดการณ์ 21.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้จากยานยนต์ 329 ล้านเหรียญสหรัฐ จากคาดการณ์ 292.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินสดจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น 150% เป็น 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้นหลังแตกหุ้น
การแบ่งหุ้นล่วงหน้าสิบต่อหนึ่งมีผลในวันที่ 7 มิถุนายน 2024
ประมาณรายรับในไตรมาส 2 อยู่ที่ 28.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บวกหรือลบ 2% จากคาดการณ์ 26.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2568 ส่งผลให้ราคาหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ค.)
อินวิเดียระบุว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2568 อยู่ที่ 6.12 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.59 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 2.604 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.465 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ อินวิเดียคาดการณ์ว่า ยอดขายในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2568 จะอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.661 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดแสดงให้เห็นว่าความต้องการชิป AI ที่พัฒนาโดยอินวิเดียยังคงแข็งแกร่งมาก และเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้น 7% แตะระดับสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ ส่วนในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) หุ้นอินวิเดียขยับลง 0.46% ปิดตลาดที่ระดับ 949.50 ดอลลาร์
นายเจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอินวิเดียคาดการณ์ว่า ในปีนี้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก "Blackwell" ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านายหวงยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มของบริษัท หลังจากที่เขากล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า "เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว อินวิเดียมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และคาดว่าความต้องการหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูง"
ในช่วงกลางเดือนมี.ค.ปีนี้ อินวิเดียประกาศเปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ในงาน "GTC 2024" รวมทั้งเปิดตัวซอฟต์แวร์สำหรับโมเดลต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี AI โดยมีเป้าหมายที่จะรั้งตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรม AI
ในงานดังกล่าว อินวิเดียได้เปิดตัวชิปประมวลผลกราฟิก AI รุ่นแรกในตระกูล Blackwell ซึ่งมีชื่อว่า B200 และจะทำการจัดส่งภายในปีนี้ โดยชิปรุ่นนี้สามารถประมวลผลเร็วขึ้นถึง 30 เท่าเมื่อใช้ในงานด้านต่าง ๆ เช่น การตอบคำถามของแชตบอต ส่วนเครื่องมือซอต์แวร์รุ่นใหม่ซึ่งมีชื่อว่า "Microservices" จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการใช้งานเป็นวงกว้าง อีกทั้งจะทำให้บรรดาธุรกิจสามารถนำโมเดล AI มาใช้ในงานด้านต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย
อินวิเดียเปิดเผยว่า ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ซึ่งรวมถึงอะเมซอนดอตคอม, กูเกิลซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบท, โอเพนเอไอซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การสนับสนุนของไมโครซอฟท์ และออราเคิล มีแนวโน้มที่จะใช้ชิปรุ่นใหม่นี้ในการให้บริการคลาวด์คอมพิวติงและบริการด้าน AI ที่บริษัทเหล่านี้กำลังให้บริการอยู่
NVIDIA แสดงโมเมนตัมที่ยั่งยืนของ AI อีกครั้ง
หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ NVIDIA และแนวโน้มที่หนุนความเชื่อมั่นในความคลั่งไคล้ปัญญาประดิษฐ์ที่ขับเคลื่อนแรงซื้อ AI FOMO อีกครั้ง
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขายหลังจากคาดการณ์ว่ายอดขายจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในไตรมาสปัจจุบัน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนมูลค่า 270 พันล้านดอลลาร์ที่ได้ติดตามและลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ได้มีการปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน
รายรับในไตรมาสที่สองจะอยู่ที่ประมาณ 28 พันล้านดอลลาร์ บริษัทกล่าวในแถลงการณ์หลังตลาดปิดในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์โดยเฉลี่ยคาดการณ์ไว้ที่ 26.8 พันล้านดอลลาร์ ผลลัพธ์ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณซึ่งดำเนินไปจนถึงเดือนเมษายนก็ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นได้ร่วงลงในช่วงเวลาซื้อขายปกติ เนื่องจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐล่าสุดระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย ตามรายงานการประชุม FOMC ที่ได้กล่าวถึงรายละเอียดดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ร่วงลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับขอบเขตของนโยบายที่จำกัด แต่รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่านโยบายถูกมองว่ามีข้อจำกัด ซึ่งทำให้ราคาพันธบัตรอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยระยะเวลาครบกำหนดที่สั้นลงอาจส่งผลให้มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
และการลดลงของราคาพันธบัตรดังกล่าว ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุ 2 ปีของสหรัฐเพิ่มขึ้นสี่จุดเป็น 4.87% ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีการปรับตัวลง ซึ่งรวมไปถึงราคาทองคำและราคาน้ำมัน
หุ้นตัวใดที่คุณควรซื้อในการเทรดครั้งถัดไป?
ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลของ AI กำลังจะเปลี่ยนแปลงตลาดหุ้น บริการ ProPicks AI ของ Investing.com เป็นพอร์ตหุ้นที่ทำกำไร 6 พอร์ตที่คัดเลือกหุ้นโดยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยของเรา เฉพาะในปี 2024 เพียงปีเดียว เทคโนโลยี AI ของ ProPicks AI ได้ระบุหุ้น 2 ตัวที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 150%, หุ้นเพิ่มเติมอีก 4 ตัวที่ดีดตัวขึ้นกว่า 30% และหุ้นอีก 3 ตัวที่ไต่ระดับขึ้นกว่า 25% แล้วหุ้นตัวใดที่จะทะยานขึ้นต่อไป?
ปลดล็อก ProPicks AI