SCB / BANK / AP
• SET: คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideways ต่อไป โดยสําหรับปัจจัยวันนี้ แนะนําติดตามรายงานการประชุม Fed รอบล่าสุด (FOMC Minutes) ที่จะ ออกมา ว่าจะมีการส่งสัญญาณอะไรเพิ่มเติมจากรายงานเบื้องต้นที่ออกมา จากการประชุม Fed วันที่ 30-31 ม.ค.หรือไม่ ทั้งนี้ เรายังคงคาดการณ์ เช่นเดิมว่า Fed จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. นี้ ซึ่งล่าสุดตลาดได้ให้น้ําหนักความน่าจะเป็นไปกว่า 92% แล้ว ในเชิงกล ยุทธ์ ตราบใดที่ดัชนี SET ยังไม่ได้ลงมาจนมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจ มากนัก ยกตัวอย่างเช่นระดับ 1370 จุด แนะนํานักลงทุนสามารถอยู่ใน โหมด Wait & See ต่อไปได้
• SCB: คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกในช่วงเปิดตลาดวันนี้ หลังเมื่อวาน ช่วงเย็นประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 7.84 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น Remaining dividend yield อีก 7.5% ส่งผลให้ทั้งปี 2566 ธนาคารจ่าย ปันผลออกทั้งสิ้น 10.34 บาทต่อหุ้น สูงกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 6 บาทต่อหุ้น อย่างมีนัยสําคัญ มองการจ่ายปันผลที่สูงกว่าคาดของ SCB นี้อาจนํามาสู่ ความคาดหวังประเด็นเดียวกันสําหรับธนาคารอื่นๆในช่วงนี้ จนทําให้กลุ่ม ธนาคารปรับตัวแข็งแกร่งในระยะสั้นได้ โดยสําหรับกลุ่มนี้ Top pick ของเราในเชิงกลยุทธ์ยังคงได้แก่ TISCO ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นแนะนํา Magnificent 7 ประจําไตรมาสที่ 1 ของเรา โดยเราคาด Remaining DPS อยู่ที่ 5.8 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Remaining dividend yield อยู่ที่ 5.9% ประเมินการเข้าสู่ดัชนี MSCI Small cap ล่าสุด จะทําให้ตัวหุ้นเข้าไปอยู่ใน เรดาร์ของนักลงทุนต่างชาติประเภท Passive funds มากขึ้น
• AP: ถือเป็นตัวหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ของเราประจําไตรมาส 1 ที่ราคา ยังคงปรับตัว Laggard กลุ่มอยู่ โดยติดลบไป 3.5% YTD (รูปที่ 1) มองว่า ราคาปัจจุบันมีความน่าสนใจในแง่ของการลงทุนเพื่อรับเงินปันผลที่ล่าสุด ประกาศจ่ายในอัตรา 0.70 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็น Dividend yield ราว 6.4% เนื่องจากระดับ Dividend yield ดังกล่าวอยู่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ย Dividend yield 5 ปีย้อนหลังได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่งแล้ว (รูปที่ 2) ทั้งนี้ บริษัทรายงานกําไรสุทธิ 4Q66 ที่ 1.37 พันล้านบาทเท่ากับที่เราและ ตลาดคาดการณ์ โดยมี Gross Margin รวมอยู่ที่ 36.5% สูงกว่า 3Q66 ที่ 35.5% และ 4Q65 ที่ 34.9% สําหรับปีนี้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 48 โครงการ มูลค่ารวม 5.8 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ายอด Presales ที่ 5.7 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 11% คงคําแนะนํา “ซื้อ” ในเชิง พื้นฐานที่ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท อิง P/E ที่ 7.5x
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities