Selling into strength (1410)
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะนํานักลงทุนที่ถือครองหุ้นมาตลอด ก่อนหน้านี้ ใช้จังหวะที่ SET Index ปรับตัวรีบาวด์เข้าใกล้ระดับ จุดขายทํากําไรออกมาก่อน เนื่องจากเรายังไม่เห็นพัฒนาการ ใดๆทางด้านผลประกอบการ แถมมิหนําซ้ํา ผลการประชุมกนง.เมื่อวานนี้ที่ ออกมามีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ถือเป็นกรณีที่ห่างไกลจากกรณีดีสุดในแง่ของ Fund flow, Capital flow และเงินบาท ตามที่เราวิเคราะห์ไว้เมื่อวานนี้ เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยเราเมื่อ เทียบกับสหรัฐฯอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกถ่างมากขึ้นในช่วงถัดไป เพราะฉะนั้น อาจต้องระวังแรงขายทํากําไรของนักลงทุนต่างชาติที่อาจ เกิดขึ้นในระยะสั้นด้วยเช่นกัน ล่าสุดเงินบาทถือเป็นสกุลเงินเอเชียที่มีการ ปรับตัวอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 วันที่ผ่านมา
• Empirical study: จากการศึกษาเชิงประจักษ์ของเราในอดีตไปยัง การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของธปท.ใน 3 รอบหลังสุด ซึ่งได้แก่ในปี 2007, 2011 และ 2019 จะพบว่าดัชนี SET มักปรับตัว Sideways ถึง Sideways down ในช่วง 3-6 เดือนก่อนหน้าที่การ ลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกจะเกิดขึ้น (รูปที่ 1) แต่จะมีกลุ่มที่ Outperform ตลาดอยู่ได้อย่างเช่น HELTH, COMM, ICT, MEDIA (รูปที่ 2) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มหุ้นที่อิงกับ Domestic demand แทบ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ หากเป็นพอร์ตลงทุนที่จําเป็นต้องถือหุ้นไทยในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้ มองว่าสามารถที่จะโฟกัสการถือครองมายังหุ้นในกลุ่ม Domestic เหล่านี้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนได้
• ไฮไลท์จากผลการประชุมกนง.เมื่อวานนี้ ได้แก่
1) กนง.มีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับลดลงกว่าที่ประเมิน ไว้จากปัจจัยด้านอุปทาน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ําในปัจจุบันไม่ได้บ่งชี้ ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ โดยราคาสินค้าไม่ได้ปรับลดลงเป็นวงกว้าง และหากหักผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงเป็นบวก
2) กนง.เตรียมปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงจากเดิม โดยคาดว่า การเติบโตจะอยู่ในช่วง 2.5-3.0% (ไม่รวมมาตรการ Digital wallet) จากเดิมที่ 3.2% โดยการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยวยัง เป็นแรงขับเคลื่อนสําคัญ ขณะที่การส่งออกและการผลิตมีแนวโน้มการ ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• Reaction ของตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่
1) เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าตั้งแต่ผลการประชุมออกมา และถือเป็นสกุลเงิน ที่อ่อนแอที่สุดในเอเชีย เป็นไปตามทิศทางที่เราประเมินเอาไว้หากผล การประชุมออกมามีมติไม่เป็นเอกฉันท์
2) ล่าสุด Trader ในตลาดเงิน Price in โอกาสราว 28% ที่กนง.จะมีการ ปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ เพิ่มขึ้น เล็กน้อยจากวันก่อนที่ 22% ส่วนโอกาสในการลดดอกอเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 68% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 48% ซึ่งเรามองว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเป็น Reaction ที่สมเหตุสมผล
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities