No minimum wage hike? / Energy sector view
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนํานักลงทุนหาจังหวะทยอย Lock profit ในช่วงครึ่งเดือนแรก และเข้าสู่โหมด Wait & See ในช่วงครึ่งเดือน หลัง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการประชุม FOMC ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ หลังจากที่ราคานํามันดิบท่าจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ หาก ต้องการเข้าสะสมหุ้นจริงในช่วงนี้ มองกลุ่มหุ้น Laggard ที่น่าสนใจ 2 กลุ่ม เดิม ได้แก่ กลุ่ม Media เช่น PLANB, VGI, BEC, ONE และกลุ่ม Logistics เช่น III, LEO, SJWD, WICE
• More hike? วานนี้ กลุ่มธนาคารปรับตัว Outperform และกลุ่มไฟแนนซ์ ปรับตัว Underperform คาดว่าเป็นมุมมองของตลาดที่เริ่มปรับเปลี่ยนและ ให้นํ้าหนักกับความเป็นไปได้ต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งหนึ่งของ ธปท. หลังจากที่ราคาน้ามันหาจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีโอกาส น้ามาสู่การขยายตัวด้วยอัตราเร่งอีกครั้งของเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่สี่
• BANK VS. FIN: ส่วนปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัวของกลุ่มธนาคาร ได้แก่ KTB ที่อาจได้อานิสงส์หากนโยบายเงินดิจิทัลถูกผูกกับ Payment platform เดิมอย่าง 'เป้าดัง' ในทางกลับกัน ปัจจัยกดดันกลุ่มไฟแนนซ์อื่น มองไปยังแนวโน้มทีนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่านั้น อาจถูกถอดออกจาก แผนนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเราเคยแสดงผลการศึกษาให้เห็นแล้วว่า กลุ่มที่ Performance มักมีความสัมพันธ์ในทางเดียวกันกับค่าแรงขั้นต่ําสูง ที่สุดก็คือกลุ่มไฟแนนซ์นั่นเอง
• No wage hike? อย่างไรก็ดี หากประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ําถูกถอด ออกจากแผนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จริง มองอาจเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มที่มีสัดส่วนต้นทุนแรงงานในระดับสูง อย่างเช่น รับเหมา ก่อสร้าง อสังหาฯ ร้านอาหาร โรงแรม อุตสาหกรรมภาคการผลิตของไทย และอาจรวมไปถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ตลาดอาจมองว่าความสามารถ ในการแข่งขันด้านต้นทุนของไทยนั้นยังจะไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
• HELTH: สําหรับกลุ่มที่ปรับตัว Qutperform สูงสุดวานนี้ได้แก่กลุ่ม โรงพยาบาล โดยมีปัจจัยหนุนทั้งเรื่องของการเข้าสู่ High season การระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ต่างๆ การเป็นกลุ่มที่ Defensive และ มักHedging กับเงินเฟ้อได้ สาหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัย มองว่าการ พักเงินไว้ในกลุ่มนี้อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ทั้งโรงพยาบาลขนาด ใหญ่เช่น BDMS, BH และโรงพยาบาลขนาดกลางลงมาเช่นBCH, CHG
• SETENERG: เราออกบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงาน ประเมินว่าค่าการ กลั่นได้ผ่านจุดสูงสุดของปีไปแล้ว และราคาหุ้นในกลุ่มนี้ก็ได้ตอบรับ ปัจจัยดังกล่าวไปมากแล้วเช่นเดียวกัน สอดคล้องกับมุมมองเชิงกล ยุทธ์ที่ว่า หากจะต้องการเข้าลงทุนในส่วนของกลุ่มพลังงาน ณ เวลา นี้ มองไปยังกลุ่ม Upstream เช่น PTTEP จะยังเป็นกลุ่มที่โดดเด่น ที่สุด แถมยังมีความเสี่ยงด้าน Policy risk ภายในประเทศน้อยที่สุด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities