🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

รอดู สถานการณ์ 

เผยแพร่ 21/08/2566 09:52
SETI
-

พรุ่งนี้ (22 ส.ค.) จะมีการประชุมรัฐสภา โดยมีวาระสำคัญคือการโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น Candidate จากพรรคเพื่อไทย แต่ในวันนี้จะมี 2 เหตุการณ์ ที่ติดตามได้แก่ การแถลงข่าวของ คุณชูวิทย์ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลของคุณ เศรษฐา ทวีสิน และในช่วงเย็น น่าจะเห็นการแถลงข่าวร่วมของว่าที่พรรคร่วม รัฐบาล ว่าจะประกอบด้วยพรรคอะไรบ้าง ในช่วงของการรอติดตามพัฒนาการ ของข่าวต่างๆ น่าจะทำให้SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ แคบช่วง 1515 –1535 จุด ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามใกล้ชิดคือ สถานการณ์เศรษฐกิจในจีน ซึ่งที่ ผ่านมาพบว่าเครื่องยนต์เศรษฐกิจต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการ บริโภคภาคครัวเรือน, การลงทุนภาคเอกชน และ การค้าระหว่างประเทศ ล่าสุดมี ปัญหาหนี้สินอสังหาฯ ซึ่ง Evergrandeเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ยื่นล้มละลาย

ในช่วงการรอดูพัฒนาการของการเมืองในประเทศ และ เศรษฐกิจจีนที่ส่ง สัญญาณปัญหามากขึ้น วันนี้คาด SET Index ผันผวนในกรอบ 1515 – 1535 จุด หุ้น Top Pickวันนี้เลือก JMART, TOP และ TRUE

เศรษฐกิจโลกเสี่ยง Recession มากขึ้น

เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งจีน โดย ดัชนี Hang Seng ร่วงลงกว่า 2.1% หลังมีสัญญาณเชิงลบจากความเสี่ยงเศรษฐกิจ Recession เริ่มกลับมามีน้ำหนักมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลขที่ออกมาล่าสุด อาทิ

• เงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือน ก.ค. +3.3%YoY ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

• ยอดค้าปลีกอังกฤษ เดือน ก.ค. -3.4%YoY หดตัวมากกว่าคาด -2.2%YoY และติดลบมากกว่าเดือนก่อนที่ -1.6%YoY

• FDI ของจีน เดือน ก.ค. -4.0%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

ขณะเดียวกันปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนกำลังกระทบต่อความเชื่อมั่น ทั้งบริษัท ยักษ์ใหญ่อย่าง Evergrande (HK:3333) ได้ยื่นล้มละลาย เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเคยผิด นัดชำระหนี้ครั้งใหญ่เมื่อปี 2564 ทำให้มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าอาจลามไปยังบริษัท Country Garden ที่เพิ่งพลาดการชำระหนี้มูลค่า 22.5 ล้านเหรียญฯ ไปในวันที่ 6 ส.ค. รวมถึงมีแนวโน้มว่าอาจลุกลามไปยังภาคการเงินอื่นๆ อย่างเช่นกอง Trust ที่มีการ ลงทุนในภาคอสังหาฯ

สัญญาณเชิงลบที่เกิดขึ้นในจีนอาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันบ้านเราเช่นกัน โดนเมื่อ พิจารณาความเกี่ยวโยงทางเศรษฐกิจระหว่างไทยจีนและไทย พบว่ามีความสัมพันธ์กัน ค้อนข้างมาก ตั้งแต่ตลาดหุ้นที่ CSI300 Index มักเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับ SET Index บวกกับภาคการค้าที่จีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทย รวมถึงภาค การท่องเที่ยวที่ไทยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงถึง27.6% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในปี 2562

ขณะที่เช้านี้ เวลา 9.30 น. ทางสภาพัฒน์จะมีการรายงานตัวเลข GDP ของไทยช่วง 2Q66 โดย Bloomberg คาด GDP Growth ของไทย 2Q66 โต 3.0%YoY และ 1.1%QoQ ทั้งนี้ GDP ในระดับดังกล่าว ยังน้อยกว่าการขยายตัวเฉลี่ยที่ฝ่ายวิจัยฯ ได้ ประเมินไว้ว่าไตรมาส 2-4 ของปีนี้ (3Q ที่เหลือของปีนี้) GDP จะต้องโตเฉลี่ย 3.8%YoY และ 2.3%QoQ กรณี GDP ทั้งปี 2566 โต +3.5%YoY

อย่างไรก็ตาม หาก 2H66 เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และจีนยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ เต็มที่ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม ปัจจัยดังกล่าวอาจกดดันให้ เศรษฐกิจไทยมี Downside มากขึ้น และอาจเกิดการปรับลดประมาณการ GDP ในเวลา ต่อมาได้

สรุป ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ Recession เริ่มกลับมามีน้ำหนักมากขึ้น สัวนหนึ่งมา จากปัญหาภาคอสังหาฯ ในจีนที่กำลังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจได้รับแรงกดดันจากปัจจัยดังกล่าว และอาจเกิดการปรับลด ประมาณการ GDP ในเวลาต่อมาได้

สัปดาห์นี้คาดได้ตัวนายกฯ หวังเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

หลังประธานสภาประชุม 3 วิปเสร็จสิ้น โดยมีรายละเอียด คือ วันโหวตนายกฯ 22 ส.ค. นี้ ให้ สส.-สว.อภิปราย 5 ชั่วโมง (สส. 3 ชม / สว. 2 ชม) ก่อนลงมติ 15:00 น. และชี้แจง ว่า ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ดังที่รัฐธรรมนูญไม่ได้ กำหนดไว้

ขณะที่ทางฝั่งพรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรค ร่วมอื่นๆอีก 3 พรรค (วันนี้เวลา 13.00 น.) ทำให้เสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลล่าสุดคาด อยู่ที่ 317 เสียง ซึ่งต้องหาเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกอีก 58 เสียง จึงจะสามารถ จัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ โดยท่าทีของ สว. ล่าสุดมีโอกาสสูงที่ทำให้การโหวต นายกรอบที่ 3 มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น (>375 เสียง) ซึ่งกระบวนการหลังจากนั้น คือ แต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่ช่วงปลายเดือน ส.ค.66

ประเด็นดังกล่าว หากเป็นผลสำเร็จจริง ก็จะช่วยลดความกังวลเรื่องสุญญากาศทาง การเมืองและงบประมาณประจำปี 2567 ไปได้ระดับหนึ่ง และ น่าจะทำให้ SET Index ตอบสนองเชิงบวกได้ ส่วนประเด็นการเก็งกำไร ก็อาจเกิดขึ้นกับหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ จากแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วม รัฐบาลใหม่ (นโยบายหลักๆของพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ เติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท, ค่าแรง 600 บาท / เงินเดือน ป.ตรี 25,000 บาท, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, เปิดศูนย์ฟอกไตเทียมทุกอำเภอ, พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น-หยุดดอก, บัตรประชารัฐ, บัตร สวัสดิการพลัส, คนละครึ่งภาค 2 เป็นต้น)

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่เคยร่วงแรงจากความกังวลเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ก่อนหน้านี้ที่มีโอกาสดีดตัวขึ้นมาได้ แนะนำหุ้นเด่น 5 กลุ่ม คือ (1) หุ้นรายได้อิงโครงการ ภาครัฐ STEC, CK, BEM (2) หุ้นหวังพึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม SAWAD, CBG, JMT (3) หุ้นทุนผูกขาด TRUE, CRC, CPN, CPALL (BK:CPALL), BJC (4) หุ้นได้รับผลกระทบปรับ สูตรค่าไฟฟ้า GULF, BGRIM, GPSC, PTTGC (5) หุ้นรับกระแสข่าวดังกล่าว SIRI, SC, ADVANC, PR9, SCB

สรุป ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภาพการเมืองมีทิศทางที่สดใสขึ้น และมีโอกาสรู้ตัวนายกฯ ใน วันพรุ่งนี้ ขณะที่หลังจากจัดตั้งรัฐบาลและได้ชุด ครม.เรียบร้อย คาดเห็นการผลักดัน นโยบายของแต่ละพรรคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป เก็งกำไรหุ้นที่คาดได้ ประโยชน์จากนโยบายข้างต้น ชอบ STEC CBG TRUE GULF SIRI PR9 เป็นต้น

Thailand Focusเข้ามาช่วยพยุงตลาดในสัปดาห์นี้

แม้ปัจจัยภายนอกจะผันผวน แต่สัปดาห์นี้หากการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองผ่านไปได้ดี ซึ่งวันที่ 22 ส.ค.66 จะเป็นวันโหวตนายกฯ รอบ 3 ขณะที่ปัจจัยหนุนหลังจากนั้น คือ งาน Thailand Focus 2023 ที่จะจัดขึ้น 23-25 ส.ค.66 คาดทำให้การลงทุนของนักลงทุนมี ความมั่นใจมากขึ้น จากการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน

และจากสถิติในอดีตย้อนหลัง 6 ปี ในช่วงจัดงาน Thailand Focus พบว่า ทั้งต่างชาติ และสถาบันฯ ในประเทศ ซื้อสุทธิหุ้นไทยเฉลี่ย 959 ล้านบาท และ 3,835 ล้านบาท ตามลำดับ ที่สำคัญคือ หนุนให้ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ 0.2% - 2.4% และเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.1%

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง เสร็จสิ้น และเป็นหุ้นที่เข้าร่วมงาน Thailand Focus 2023 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้

• กลุ่มบริษัทที่ไม่มา Thailand Focus 2022 แต่ปี2023 นี้มาTPIPL SIRI KTB SCCC STEC

• กลุ่มบริษัทมา Thailand Focus 2022 และปี 2023 มาต่อเนื่อง TRUE AMATA CPALL CPN LH CRC BJC AOT (BK:AOT) ERW

สรุป ปัจจัยภายนอกไม่ดี ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงเฝ้ารอการเปลี่ยนผ่านทาง การเมือง โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET 1515-1535 จุด ขณะที่ Toppicks เลือกหุ้นที่มี Sentiment บวกเฉพาะตัว อย่าง TPIPL ที่ได้ประโยชน์ทั้งจาก การเลือกตั้ง และมางาน Thailand Focus ปีนี้, TRUE เข้าดัชนี FTSE Large Cap และ TOP ได้แรงหนุนจากฤดูกาลมรสุม โดยล่าสุดพายุฮิลารีพัดเข้าชายฝั่งสหรัฐฯ หนุนให้ ค่าการกลั่นมีโอกาสยืนระดับสูง

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย