Week of intensity
• SET: SET Index เริ่มเผชิญกับแรงขายท่าก๋าไรในระยะสั้นโดยนักลงทุน ต่างชาติ หลังยังไม่มีพัฒนาการที่สําคัญของปัจจัยการเมือง มองกรอบการ แกว่งตัวของ SET สัปดาห์นี้ที่ 1500-1560 จุด ในเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่า สถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร เราคงกรอบแนวต้านสําคัญของรอบนี้ ที่ SET ระดับ 1560 จุดตามเดิม ซึ่งถือว่าเป็นระดับดีที่สุดตามวิธี PE Model ของเราแล้ว ท่าใหในภาพรวมยังคงแนะนํา Wait & See และท่าได้แต่เพียง Selective การถือครองไปก่อนในช่วงนี้ ซึ่งกลุ่มที่น่าสนใจยังคงได้แก่กลุ่ม BANK (ถึอจนถึงต้นเดือนส.ค.) และกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับพรรค การเมืองที่มีโอกาสจัดตั้งเป็นรัฐบาลใหม่ เช่น พรรคเพื่อไทยและพรรค ภูมิใจไทย เป็นต้น
• Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ FOMC ที่จะทราบผลในช่วงดึกคืน วันที่ 26 ก.ค.ตามเวลาบ้านเรา เราประเมิน Fed จะมีการขึ้นดอกเบี้ย นโยบาย 0.25% ไปสู่ระดับ 5.25-5.50% แน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาด คาดการณ์ไปแล้ว แต่ความเสี่ยงที่ตลาดยังคง Underprice อยู่นั่นก็คือ แนวโน้มดอกเบี้ย Fed Funds ในช่วงถัดไป ซึ่งตลาดคาดว่าการขึ้น ดอกเบี้ยรอบนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของรอบแล้ว (รูปที่ 1) แต่หาก Statement และ/หรือการตอบค่าถามของนาย Jerome Powell ออกมา Hawkish กว่าที่ตลาดคาดไว้ ยกตัวอย่างเช่น บ่งชี้ถึงโอกาสที่ Fed อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อได้อีก ประเมินว่า Bond yield สหรัฐฯและค่าเงิน USD มีโอกาสปรับด้วรีบาวด์ต่อ ได้ จนส่งผลให้เกิดแรงขายทํากําไรระยะสั้นในสินทรัพย์เสียง
2) การประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 27 ก.ค. ซึ่ง ECB คงจะมีการ น ดอกเบี้ยสําคัญทุกตัวอีก 0.25% อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางส่วนเริ่ม คาดการณ์ว่า ECB อาจส่งสัญญาณยุติวงจรขาขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบ นี้ ไว้ที่การประชุมคราวหน้าเดือนกันยายน
3) การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 27-28 ก.ค. ซึ่งแม้ Bol อาจมี การปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ขึ้น แต่ประเมินว่าในเชิงของนโยบาย การเงินนั้น ยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
4) พัฒนาการของปัจจัยการเมืองไทย โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. งดงต้องดูว่าจะมีการเลื่อนออกไปหรือไม่ รวมถึง ความคืบหน้าของการพิจารณาคดีค่าร้องต่างๆของศาลรัฐธรรมนูญ
5) รายงานตัวเลขส่งออก-น่าเข้าของไทยประจําเดือนมิ.ย. ล่าสุดตลาด คาดการณ์โหดตัว YoY ทั้งคู่ที่ระดับ 7.3% และ 7.8% ตามล่าดับ ส่งผล ให้ดุลการค้าคาดว่าจะขาดดุลที่ 900 ล้านเหรียญฯ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities