THB Yield reach 2023 high / Beware of highly-leverage firms
• SET: คาดดัชนีแกว่งด้ว Sideways ในวันนี้ จากปัจจัยทั้งภายนอกและ ภายในที่เริ่มเบาบางลงจากสัปดาห์ก่อน ในเชิงกลยุทธ์ แนะนําานักลงทุน ชะลอการลงทุนต่อไป และอยู่ในโหมด Wait & See เพื่อให้ดัชนี SET ลง ไปสู่ระดับที่มี Risk-reward ratio น่าสนใจมากกว่าปัจจุบัน
Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) ความเป็นไปได้ที่ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะปรับลดดอกเบี้ย Loan Prime Rate (LPR) อายุ 1 ปีลงเหลือ 3.55% จากเดิม 3.65% และ อายุ 5 ปีลงเหลือ 4.20% จากเดิม 4.30% ซึ่งเป็นการปรับลดลงล้อไป กับดอกเบี้ย RP และดอกเบี้ย MLF ก่อนหน้านี้
2) พัฒนาการของหุ้น DELTA ซึ่งจะส่งผลต่อมายังการเคลื่อนไหวของดัชนี SET
Surging yield: เรากําลังจับตาอย่างใกล้ชิดไปยังการปรับตัวขึ้นท่า จุดสูงสุดใหม่ของ Bond yield ไทยในปีนี้ ทั้งรุ่นสั้นและรุ่นยาว (รูปที่ 1) อันสืบเนื่องมาจาก Forward guidance ของธปท.ที่ยังคง Hawkish และ การปรับขึ้นของ Fed Dot plots ล่าสุด มองปัจจัยดังกล่าวมีโอกาสกดดัน บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อไป ผ่านมิติ
1) Earning yield gap ที่ปรับลดลง ซึ่งตลาดหุ้นไทยเสียเปรียบประเทศ อื่นก่อนหน้านี้จาก Earning yield ที่ปรับลงอยู่แล้วจากประเด็น Earnings downgrade
2) ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มสูงขึ้น
Beware: โดยเฉพาะในมิติต้นทุนทางการเงินนั้น บจ.ของไทยจะมีการ ครบกําหนดอายุชาระหนี้มากที่สุดใน ASEAN ในช่วง 3-4 ปีนี้ (รูปที่ 2) ดังนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังต่อบริษัทที่มีภาระหนี้สูง (Highly-leveraged) เนื่องจากหาก Bond yield ยังคงอยู่สูงเช่นนี้ อาจมีความเสี่ยงต่อการ Refinance หรือหากมีการ Rollover ตราสารได้ ก็คงจะเผชิญกับต้นทุน ทางการเงินที่สูงขึ้นอยู่ดี จนส่งผลกระทบต่อผลการดาเนินงานได้เช่นกัน
• SET50/SET100: ตลาดหลักทรัพย์ประกาศรายชื่อหุ้นในดัชนี SET50 และ SET100 รอบใหม่ มีผลดังนี้
1) หุ้นที่ถูกน่าเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้แก่ TLI, WHA (ตรงตามคาด)
2) หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ JMT, JMART (ตรงตาม คาด)
3) หุ้นที่ถูกนําเข้าสู่ดัชนี SET100 ได้แก่ TLI, BTG, TASCO, MBK, AURA, SNNP, ERW, STEC (มี STEC ที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้, ส่วน AEONTS ที่เราคาดการณ์ไว้ไม่ได้ถูกน่าเข้า)
4) หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ QH, KEX, RBF, EPG, BEC, JAS, ONEE, SINGER (ตรงตามคาด)
Tactical play: สําหรับกลยุทธ์เก็งกําไร มองว่าราคาหุ้นทั้ง TLI และ WHA ขึ้นมามากแล้ว จึงแนะนําให้เก็งกําไรในส่วนของตัวหุ้นที่ถูกคัดเลือก เข้าสู่ดัชนี SET100 และราคายังคง Laggard อยู่ อาทิเช่น TASCO, AURA (TASCO เป็นหนึ่งในตัวหุ้นที่เห็นโมเมนตัมของการปรับขึ้น Earnings ในช่วงที่ผ่านมา) ส่วนในรายของ JMT และ JMART นั้น สําหรับผู้ที่ต้องการเข้าสะสม แนะรอให้เกิดการโยกย้ายเม็ดเงินให้เสร็จก่อน ในช่วงปลายเดือนนี้ ก่อนที่จะใช้จังหวะนั้นในการทยอยเข้าสะสม เนื่องจาก น่าจะเป็นจุดที่ข่าวร้ายสะท้อนในราคาเกือบหมดแล้ว
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities