New base at 1580-1600 / Good sign of fund flow / MPC / Election picks
SET: คาด SET Index จะเริ่มสร้างฐานใหม่ได้ที่ระดับ 1580-1600 จุด หลังจากสัญญาณต่างๆเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ Fund flow ที่เมื่อวานนี้กลับมามียอดซื้อสุทธิสูงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. แถม Action ในตลาด Futures เมื่อวานนี้พบการ Rollover สัญญาจาก Series H ไปยัง Series M โดยที่มีการเปิด Long position เพิ่มเติม อีกด้วย คล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้น SET สามารถเดินหน้าต่อเนื่องได้อีกราว 50 จุด
ในเชิงกลยุทธ์: แนะถือครองหุ้นในส่วนที่เหลือเพื่อ Let profit run หลัง แบ่งขายทํากําไรไปส่วนหนึ่งที่บริเวณดัชนี 1,590 จุด หากต้องการเข้าสะสมหุ้นเพิ่มเติม แนะใช้กรอบฐานใหม่ของ SET ที่ 1580-1600 จุดในการ เข้าสะสม โดยเน้นไปยังกลุ่มหุ้นที่มักปรับตัวได้ดีในช่วง Election rally อย่าง กลุ่ม MEDIA, HELTH, PROP, BANK, FIN, TRANS, COMM สั่งที่น่าสนใจก็คือว่า กลุ่มหุ้นเหล่านี้ยังไม่ได้มีการปรับขึ้นมามากนัก หาก นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ท่ามหในแง่ Valuation ส่วนใหญ่ ยังไม่ได้อยู่ใน ระดับที่ตึงตัวมากนัก
MPC: สําหรับปัจจัยที่สําคัญวันนี้ แนะนําติดตามการประชุมกนง. ซึ่งน่าจะ มีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเรายังคง คาดหวังเช่นเดิมว่าเหตุการณ์วันนี้ อาจเป็น Turning point ของ Fund flow ในตลาดหุ้นไทยรอบนี้ หากที่ประชุมมีการส่งสัญญาณ Forward guidance ที่ Dovish มากขึ้นอย่างเช่น วงจรการขึ้นดอกเบี้ยรอบ นี้ใกล้สิ้นสุด หรือมีความกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อน้อยลง เป็นต้น นอกจากนั้น ยังต้องติดตามประมาณการเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะออกมาใน ครั้งนี้ April: เราออกบทวิเคราะห์ Prepare for Election Rally' ประเมิน แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงแรกของไตรมาส 2 โดยเฉพาะในเดือน เมษายนจะปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากได้อานิสงส์จากทั้งปัจจัย ที่เป็น 'Push factor' และ ‘Pull factor' โดยในส่วนของ Push factor จากภายนอกที่สําคัญได้แก่ปัจจัยผลักดันทางด้านสภาพคล่องที่มีที่มาสวน หนิ่งจากการเติมเต็มสภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐฯและยุโรปที่ ผ่านมา โดยมีมาตรการสําคัญได้แก่ USD Liquidity Swaps ที่ทําให้เงิน USD ทรงตัวอ่อนค่าในช่วงนี้ เป็นอานิสงส์ต่อสินทรัพย์เสียงในภาพรวม Election: ในส่วนของปัจจัย Pull factor ที่สําคัญในช่วงต้นไตรมาส 2 นั้น คงหนีไม่พ้นสีสันทางด้านการเลือกตั้งที่จะเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อ
Sentiment ในตลาดมากขึ้น คาดว่าจะเริ่มเห็นความคึกคักตั้งแต่ช่วงต้น เดือนเมษายนที่มีการรับสมัครส.ส.แบ่งเขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้ง การแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่มองต่อเนื่อง ไป ด้วยแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งต่างๆที่น่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนใน ระบบเศรษฐกิจได้ถึง 1.0-1.2 แสนล้านบาท (หอการค้าไทย) คาดว่าจะ ก่อให้เกิดการบริโภคใช้จ่ายตั้งแต่ช่วงปัจจุบันได้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities