รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง มากกว่าที่เราคาดไว้

เผยแพร่ 19/03/2566 22:38
อัพเดท 09/07/2566 17:32

Economic Highlight

ไฮไลท์สำคัญที่ต้องติดตาม คือ ผลการประชุมเฟด ซึ่งเราคาดว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย +0.25% สู่ระดับ 5.00% ทั้งนี้ ตลาดจะรอลุ้นว่าคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย หรือ Fed Dot Plot ใหม่จะสะท้อนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างไร

ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากน้อยเพียงใด

ทางฝั่งเอเชีย ตลาดจะรอประเมินโอกาสการปรับนโยบายการเงินในอนาคตของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการในเดือนมีนาคม 

**ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.

FX Highlight

  • เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าเราคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย

  • ในสัปดาห์นี้ เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ในช่วงก่อนประชุมเฟด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครอง และควรระมัดระวัง ความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับผลการประชุมเฟด

  • โดยเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย +0.25% ตามคาด พร้อมปรับคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ย หรือ Dot Plot สูงขึ้น และเฟดไม่ได้แสดงความกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องระบบธนาคารสหรัฐฯ

  • ในทางกลับกัน หากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ย หรือ ลดดอกเบี้ย โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากความเสี่ยงเสถียรภาพของระบบธนาคาร ก็อาจกดดันให้ตลาดปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) แม้เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ แต่เรามองว่า ตลาดอาจอยากถือเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และทองคำ รวมถึงบอนด์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้ เงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปมาก หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบหรือทะลุโซนแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

  • เรามองว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบกว้าง โดยต้องจับตาโซนแนวรับสำคัญแรก คือ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวต้านสำคัญจะอยู่ในช่วง 34.50 บาทต่อดอลลาร์

  • นอกจากนี้ ควรจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หลังดัชนี SET ได้ส่งสัญญาณกลับตัว (แต่ยังไม่ชัดเจน) ซึ่งหากนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้าซื้อหุ้นไทย (ส่วนหนึ่งอาจมารอเก็งกำไรหุ้นไทยในช่วงก่อนการเลือกตั้ง) ก็สามารถช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้

  • ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD ยังคงสะท้อนว่า เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideways down (ทยอยแข็งค่า) โดยเฉพาะหลังจากที่เงินบาทแข็งค่าหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน

Gold Highlight

  • ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง มากกว่าที่เราคาดไว้ (เรามองแนวโน้ม Sideways Up หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน) ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

  • แม้ว่า ราคาทองคำอาจยังพอได้แรงหนุนจากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรือ ใกล้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ย แต่เรามองว่า ต้องระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด

  • โดยหากเฟดส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจสะท้อนผ่านคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ที่ขยับสูงขึ้น ก็อาจกดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวลงได้พอสมควร

  • ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI อาจเริ่มเห็นภาพคล้าย Bearish Divergence ซึ่งต้องรอจับตาว่า โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำจะเริ่มอ่อนแรงลงมากขึ้นหรือไม่ ขณะที่สัญญาณจาก MACD คงชี้ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

  • เราคงมุมมองเดิม ที่ให้เป้าราคาทองคำในปีนี้แถวระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip และอาจพิจารณาไม่ไล่ราคาซื้อ ในกรณีที่ ราคาทองคำปรับตัวทะลุ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจาก Reward to Risk จะเริ่มไม่คุ้ม โดยเฉพาะถ้าให้จุดคัทลอสที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ต่ำกว่าแนวรับ Fibonacci Retracement 50% แถว 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

  • ในทางกลับกัน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้าน เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอจับจังหวะกลับตัวของราคาทองคำ (ลุ้นสัญญาณ RSI Bearish Divergence พร้อมติดตามผลการประชุมเฟด ) เพื่อเริ่มเปิดสถานะ Short (มองว่าราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลง) โดยอาจให้จุด stop loss แถว 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรแถวโซน 1,880-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย