Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน: คาด SET ยังคงผันผวนในกรอบแคบ ติดตามรายงานเงินเฟ้อจีนวันนี้ และ เงินเฟ้อสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า - เราคาดว่า SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,650 จุด เรา คาดว่า SET จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway จาก Upside ของ SET ที่จํากัด ประกอบกับ ยังคงขาดปัจจัยหนุน SET ในระยะสั้น เราเชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงลบไม่มากจากการขึ้น ดอกเบี้ยของ ECB รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด ในช่วงค่ําที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ ตลาดคาดหมายไว้แล้วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ ติดตามรายงานเงินเฟ้อ และดัชนีผู้ผลิต PPI ของจีน รวมไปถึงการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CP) ประจําเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ สัปดาห์ หน้า (13 ก.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือน ก.ย. กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% เรายังชอบพลังงาน ส่งออกอาหาร ร้านอาหาร และขนส่งใน ประทศ เลือก PTTEP BAFS BEM BDMS BH CRC AWC MAKRO เป็นหุ้นเด่น – กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนักการลงทุนหุ้นในพอร์ต 5096 เราแนะนําลงทุนหุ้นในกลุ่ม Defensive เลือก BDMS BCH BH ADVANC หุ้นส่งออก TFG ASIAN หุ้นในกลุ่มร้านอาหาร AU M MUD ZEN หุ้นในกลุ่มอุปโภค บริโภค และค้าปลีก MBK MAKRO CPALL (BK:CPALL) CPN CRC หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า BPP GULFGPSC BGRIM หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ BEM หุ้นเปิดเมือง BAFS AWC CENTEL PTG เฟดยังคงย้ํา เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ - นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันคาโต (Cato Institute) ในช่วงค่ําที่ผ่านมาว่า เฟดมีความมุ่งมั่น "อย่างแรงกล้า" ในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดหวังว่าการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะไม่ทําให้เกิด ต้นทุนทางสังคมที่สูงเกินไป รวมไปถึงการปรับลดูอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้ โดย ยังคงย้ําข้อมูลในอดีต ที่มีการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว จนเงินเฟ้อกลับมาฟื้นตัว จนไม่อาจควบคุมได้ ทําให้ประธานเฟดและกรรมการ มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อการควบคุมเงิน เฟ้อ โดยเราจะดําเนินการต่อไปจนกว่าภารกิจจะสําเร็จ เพิ่มน้ําหนักต่อการที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ําหนักมากถึง 889% ที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 12% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% • สัปดาห์นี้ติดตาม รายงานเงินเฟ้อทางการจีน และตัวเลข CPI - 9 ก.ย. : จีน - ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือน ส.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.2%MoM และเพิ่มขึ้น 2.8%YoY และรายงานดัชนีผู้ผลิ้ต (PPI) เดือน ส.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 3.1%)
• ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวานนี้ ตามคาด และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์สู่ระดับ 1.25% รวมทั้งปรับขึ้นอัตรา ดูอกเบี้ยเงินกู้สู่ระดับ 1.50% มีผลวันที่ 14 ก.ย, การประชุม ECB ในครั้งนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จากระดับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมาย ของ ECB อีกระยะเวลาหนึ่ง ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ / สํานักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซน เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1%YoY เป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวม ข้อมูลดังกล่าวในปี 2540 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.0% และเป็นการเพิ่ม ต่อเนื่องจากเดือน ก.ค. ที่ระดับ 8.9% / สํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานประมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา (คาดี เพิ่มขึ้น 250,000 บาร์เรล) ขณะที่ปริมาณสํารองน้ํามันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา (จุดส่งมอบ สัญญาน้ํามันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ) ลดลง 500,000 บาร์เรล ด้านปริมาณสํารองเบนซินเพิ่มขึ้น 333,000 บาร์เรล (คาดว่าลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล) และปริมาณสํารองน้ํามันกลัน (รวมถึงฮีตติงออยล์ และน้ํามันดีเซล) เพิ่มขึ้น 95,000 บาร์เรล (คาดว่าเพิ่มขึ้น 530,000 บาร์เรล) ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ ๕ CENTEL (แนวต้าน 48.25-49.25 / แนวรับ 46.00-45.50 /Stop loss 43.75) E SAPPE (แนวต้าน 48.00-49.25 / แนวรับ 45.75-45.25 / Stop loss 43.50) G SISB (แนวต้าน 16.0-16.50 / แนวรับ 15.2-15.0 /Stop loss 14.50)
SET วานนี้ยังปิดในแดนบวก แต่ยังผันผวนตลอดการซื้อขาย - SET วานนี้ (8 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,640.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 76,667.56 ล้านบาท (สูงสุด 1,649.17 จุด และตําสุด 1,636.33 จุด) ตลาดยังคุงผันผวน โดย SET ยังคงมีปัจจัยกดดันจากแรงขายหุ้นใน กลุ่มพลังงาน ตามทิศทางราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานที่กดดัน SET มาก ถึง 2.75 จุด อย่างไรก็ตาม SET ยังคงปิดในแดนบวกจาก ปัจจัยหนุนเงินดออลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bind yield) ปรับลดลง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities