🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

สกุลเงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นต่อไปหรือไม่ หลังอังกฤษประกาศชื่อนายกฯคนใหม่เมื่อคืนนี้

เผยแพร่ 06/09/2565 17:42
อัพเดท 09/07/2566 17:32
DX
-

ในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ในเวลา 18:30 ได้มีการประกาศรายชื่อผู้ชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ ซึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ ซึ่งการประกาศรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษนี้เป็นอะไรที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของนโยบายการบริหารประเทศ นโยบายการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย นโยบายการแก้ปัญหาค่าครองชีพในอังกฤษที่ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากจากภาวะเงินเฟ้อ รวมไปถึงนโยบายการเมืองระหว่างประเทศ ที่ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น

แต่ก่อนอื่น เราจะมาเรียบเรียงไทม์ไลน์โดยละเอียดถึงที่มาที่ไปของการเลือกตั้งครั้งนี้ การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และผลสำรวจว่าใครที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นอังกฤษและสกุลเงินปอนด์ก่อนหน้านี้กันก่อนครับ ว่าตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างไรทั้งก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งและหลังประกาศผลการเลือกตั้ง

ปอนด์ปรับตัวแคบเทียบดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ

ณ เวลา 18.40 น.ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปอนด์ขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 1.155 ดอลลาร์

การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษได้สิ้นสุดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย. ซึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ

ผลการสำรวจพบว่า นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ มีคะแนนนำนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ซึ่งเป็นคู่แข่ง และหากประสบชัยชนะก็จะทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี

ทั้งนี้ สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วประเทศจำนวนราว 200,000 คนได้เริ่มลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. และทางพรรคได้มีการปิดหีบเลือกตั้งในวันศุกร์ที่ผ่านมาในเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย

นายซูแนคมีคะแนนนำนางทรัสส์ในช่วงแรก แต่คะแนนเสียงเริ่มแผ่วลงในระยะต่อมา ขณะที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการดำเนินการในระหว่างที่เขาเป็นรัฐมนตรีคลังภายใต้การนำของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี รวมทั้งประชาชนมีความไม่พอใจต่อนายซูแนคเนื่องจากเขาได้เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี ขณะที่อังกฤษมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

หากชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม นางทรัสส์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนม.ค.2568 และคาดว่านางทรัสส์จะมีความยินดีต่อชัยชนะได้ไม่นาน ก่อนที่จะกลับสู่ความเป็นจริงในการเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษ

ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานเตือนว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษจะพุ่งทะลุ 18% ในเดือนม.ค.2566 โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยยาวนานกว่า 1 ปี โดยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566

BoE คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษจะทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2565-2566 ขณะที่การบริโภคเริ่มหดตัว

นอกจากนี้ หลายฝ่ายกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษ เนื่องจากนางทรัสส์มีนโยบายปรับลดอัตราภาษี รวมทั้งออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนของอังกฤษ

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (2 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านค่าแรงที่ลดลงในสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป แต่ตลาดยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และทิศทางของนโยบายภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ที่จะมีการประกาศชื่อในวันจันทร์ (5 ก.ย.)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,281.19 จุด เพิ่มขึ้น 132.69 จุด หรือ +1.86% แต่ลดลงเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.

ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นางลิซ ทรัสส์ รมว.ต่างประเทศมีคะแนนนำในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยนางทรัสส์สัญญาที่จะปรับลดภาษี แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะจัดการอย่างไรกับราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์บางรายระบุว่า แผนการของนางทรัสส์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และจะกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

พรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษแถลงว่า ทางพรรคจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.เวลา 18.30 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ ผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ

สหภาพยุโรป (EU) จะเชิญนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษเข้าร่วมการประชุมสุดยอด เพื่อหารือเกี่ยวกับองค์กรใหม่ที่จะรวมประเทศประชาธิปไตยในทวีปยุโรปเป็นหนึ่งเดียวกัน

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นนางลิซ ทรัสส์นั้น จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมกับผู้นำทั่วยุโรปในการประชุมสุดยอดที่กรุงปราก เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก ในวันที่ 6 ต.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมการเมืองยุโรป (European Political Community) ซึ่งเป็นองค์กรที่จะยกระดับความมั่นคงทั่วทวีปยุโรป

นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปเปิดเผยว่า อังกฤษจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดในเดือนหน้า แม้ว่าจะยังมีปัญหาเกี่ยวกับพิธีสารไอร์แลนด์เหนือก็ตาม

เว็บไซต์เดอะการ์เดียน.คอมรายงานว่า นายมิเชลเป็นพันธมิตรทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ซึ่งเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมการเมืองยุโรปในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งประชาคมดังกล่าวจะประกอบด้วยประเทศประชาธิปไตยทั้งหมดของทวีปยุโรป รวมถึงยูเครนและประเทศอื่น ๆ ในคาบสมุทรบอลข่านตะวันตกที่ต้องการเข้าเป็นสมาชิก EU

นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ให้คำมั่นวันที่ 4 ก.ย. ว่า จะดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นและจัดหาพลังงานเข้าประเทศมากขึ้นทันที หากได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษในสัปดาห์นี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการประกาศว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งแทนที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันนั้น นางทรัสส์ได้ย้ำถึงคำมั่นสัญญาผ่านทางหนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟว่า จะจัดการปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษ ซึ่งกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงถึง 10% และภาวะถดถอย

ทั้งนี้ นางทรัสส์ยืนยันว่า เธอเข้าใจดีว่า วิกฤตค่าครองชีพส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างไรพร้อมระบุว่า จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อรับประกันว่า ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจะสามารถผ่านพ้นฤดูหนาวในปีนี้และปีหน้าไปได้

และเราไปดูความเคลื่อนไหวของตลาดในเมื่อวานนี้ ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งกันครับ

ปอนด์ปรับตัวแคบเทียบดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษในเวลา 12:30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18:30 น.ตามเวลาไทย

ณ เวลา 17.27 น.ตามเวลาไทยในเมื่อวานนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.05% สู่ระดับ 1.151 ดอลลาร์

ทั้งนี้ การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษได้สิ้นสุดลงแล้ว และจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ

อังกฤษเตรียมประกาศตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาประมาณ 12:30 น. ตามเวลาอังกฤษ หรือ 18:30 น. ตามเวลาไทย ในวันจันทร์นี้ (5 ก.ย.) หลังพรรคอนุรักษ์นิยมแข่งขันเพื่อหาผู้นำพรรคฯ อย่างดุเดือด

ผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ โดยคาดกันว่านายแกรห์ม เบรดี ประธานคณะกรรมาธิการ 1922 (1922 Committee) จะเป็นผู้ประกาศผล

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การเลือกตั้งผู้นำพรรคฯ เกิดขึ้นเมื่อนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันประกาศลาออกเมื่อวันที่ 7 ก.ค. หลังรัฐมนตรีและผู้สนับสนุนมากมายประกาศลาออก

ผลการสำรวจพบว่า นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ มีคะแนนนำนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ซึ่งเป็นคู่แข่ง และหากประสบชัยชนะก็จะทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี

นางทรัสส์และนายซูแนคได้ประกาศมุมมองของตนเองที่มีต่อแนวทางของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) การปรับลดภาษี และแผนที่จะเนรเทศผู้อพยพไปยังรวันดา รวมถึงวิกฤติค่าครองชีพของอังกฤษที่รุนแรงขึ้น

นายซูแนคมีคะแนนนำนางทรัสส์ในช่วงแรก แต่คะแนนเสียงเริ่มแผ่วลงในระยะต่อมา ขณะที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการดำเนินการในระหว่างที่เขาเป็นรัฐมนตรีคลังภายใต้การนำของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี รวมทั้งประชาชนมีความไม่พอใจต่อนายซูแนคเนื่องจากเขาได้เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี ขณะที่อังกฤษมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

หากชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม นางทรัสส์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนม.ค.2568 และคาดว่านางทรัสส์จะมีความยินดีต่อชัยชนะได้ไม่นาน ก่อนที่จะกลับสู่ความเป็นจริงในการเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษ

และสุดท้ายแล้ว...ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นดังนี้ครับ

นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษตามคาด หลังประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษในเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ ผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ

การชนะการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี โดยนางทรัสส์จะเป็นนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนม.ค.2568 แต่คาดว่านางทรัสส์จะมีความยินดีต่อชัยชนะได้ไม่นาน ก่อนที่จะกลับสู่ความเป็นจริงในการเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษ

ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานเตือนว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษจะพุ่งทะลุ 18% ในเดือนม.ค.2566 โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยยาวนานกว่า 1 ปี โดยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566

BoE คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษจะทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2565-2566 ขณะที่การบริโภคเริ่มหดตัว

นอกจากนี้ หลายฝ่ายกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษ เนื่องจากนางทรัสส์มีนโยบายปรับลดอัตราภาษี รวมทั้งออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนของอังกฤษ

โฆษกบ้านพักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน โดยแสดงความเชื่อมั่นว่ายูเครนจะสามารถได้รับชัยชนะในการสู้รบกับรัสเซีย

การสนทนาของนายจอห์นสันเมื่อวานนี้ถือเป็นการติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายกับปธน.เซเลนสกีในฐานะผู้นำอังกฤษ ก่อนที่เขาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้

"ท่านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสำหรับความเป็นผู้นำและมิตรภาพของท่านประธานาธิบดี ซึ่งท่านกล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับผู้นำยูเครน และทั้งสองเห็นพ้องที่จะยังคงเป็นมิตรสหายที่ใกล้ชิดต่อไป" โฆษกกล่าว

ทั้งนี้ นายจอห์นสันจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษในเมื่อวานนี้

นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เตรียมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ปราสาทบาลมารัลในสกอตแลนด์ในวันนี้เพื่อรับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ นางทรัสส์จะเดินทางถึงปราสาทบาลมารัลในเวลา 12.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18.10 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าจะใช้เวลาเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นเวลาราว 30 นาที

นางทรัสส์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษในเมื่อวานนี้

การชนะการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี โดยนางทรัสส์จะเป็นนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนม.ค.2568

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยเมื่อคืนวันจันทร์ (5 ก.ย.) ว่า นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ "อยู่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองของยุโรปเสมอมา" และยูเครนตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับนางทรัสส์ต่อไป

"ในยูเครน เรารู้จักลิซ ทรัสส์เป็นอย่างดี เธออยู่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองยุโรปเสมอมา ผมเชื่อว่าเมื่อเราร่วมมือกัน เราจะสามารถป้องกันประเทศของเราได้มากกว่าเดิม และเอาชนะความพยายามในการทำลายล้างทั้งหมดของรัสเซียได้" ผู้นำยูเครนกล่าว

นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เตรียมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ปราสาทบาลมารัลในสกอตแลนด์ในวันนี้ เพื่อรับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ นางทรัสส์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษเมื่อวานนี้ ซึ่งชัยชนะดังกล่าวทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (5 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจกับการแต่งตั้งนางลิซ ทรัสส์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,287.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.24 จุด หรือ +0.09%

นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษตามคาด หลังได้รับชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ

นางทรัสส์มีนโยบายปรับลดอัตราภาษี รวมทั้งออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนของอังกฤษ ซึ่งความหวังเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านนโยบายหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นเน็กซ์ และหุ้นเจดี สปอร์ตส์

การประกาศนโยบายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ให้เห็นว่าอังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจมหภาคขั้นรุนแรงต่าง ๆ ได้หรือไม่ โดยเฉพาะวิกฤตด้านดุลการชำระเงิน หลังนางลิซ ทรัสส์ได้รับเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ

นางทรัสส์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจากนายบอริส จอห์นสันในวันจันทร์ (5 ก.ย.) โดยมีคะแนนนำนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษที่ 81,326 ต่อ 60,399 เสียงจากการลงคะแนนของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม และการขึ้นเป็นผู้นำพรรครัฐบาลจะทำให้เธอก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ

เงินปอนด์ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันจันทร์ โดยเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1.15 ดอลลาร์เล็กน้อย

แต่เราไม่ควรประเมินความเสี่ยงที่จะเกิด "วิกฤตเงินปอนด์" ต่ำจนเกินไป

ด้วยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ปอนด์ต้องการเม็ดเงินทุนไหลเข้ามหาศาลซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง ทว่าสถานการณ์กลับดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้าม

อังกฤษกำลังเผชิญปัญหาจากอัตราเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศ G10 และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ขณะเดียวกัน การขยายงบประมาณการคลังขนานใหญ่แบบไร้เป้าหมายทั้งที่ขาดแคลนเงินทุน ควบคู่ไปกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อสูงยิ่งขึ้นไปอีก

ก่อนหน้านี้นางทรัสส์วิพากษ์วิจารณ์ BoE และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ขณะเดินสายหาเสียงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวโทษ BoE ที่ปล่อยให้เงินเฟ้อพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และมีรายงานระบุว่า เธอกำลังพิจารณาทบทวนอำนาจหน้าที่ของ BoE

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย