ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

ทำไมตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC ถึงได้ร่วงลงอย่างหนักในวันนี้

เผยแพร่ 19/08/2565 21:54

ความปั่นป่วนของตลาดหุ้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ BTC ได้ร่วงลงอย่างหนัก!!!

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลง ได้ส่งผลให้ BTC ได้ร่วงลงไปก่อนรอบแรกในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นเอเชียได้ร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน รวมถึงความเสี่ยงที่ต้นทุนการกู้ยืมจะเพิ่มสูงขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ 4 รายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะปรับขึ้นเร็วและมากเพียงใด

โกลด์แมน แซคส์ และโนมูระ โฮลดิงส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) โดยอ้างอิงถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง รวมทั้งความไม่แน่นอนจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และวิกฤตพลังงาน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3% จาก 3.3% ขณะที่โนมูระปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2565 ลงเหลือ 2.8% จากระดับ 3.3%

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ โดยแรงเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นทะลุระดับ 29,000 จุดในช่วงสั้น ๆ ได้บดบังปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกและกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 28,930.33 จุด ลดลง 11.81 จุด หรือ -0.04%

กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หลังจากราคาพลังงานและวัสดุพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 11 เดือน และทำสถิติสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำหนดไว้ที่ 2% เป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากราคาพลังงานพุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ โดยตลาดฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอลงในเดือนก.ค.

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,114.50 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด หรือ +0.024% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,358.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.014%

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ของออสเตรเลียลดลง 40,900 ตำแหน่ง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแออาจจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกัน

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่สกุลเงินวอนอ่อนค่าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,494.69 จุด ลดลง 15.36 จุด หรือ -0.61% และลดลง 1.39% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ออกโรงเตือนในวันนี้ (19 ส.ค.) ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อาจชะลอตัวลง เนื่องจากการส่งออกมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเผชิญภาวะขาลง

"การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง เพราะการฟื้นตัวของภาคการส่งออกอยู่ในวงจำกัดเท่านั้น ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อระดับสูงและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบด้วยบางส่วน ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ย่ำแย่ลงในต่างประเทศ" กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ระบุในการประมาณการเศรษฐกิจประจำเดือนครั้งล่าสุด

สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังเกาหลีใต้ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั่วโลก การคุมเข้มนโยบายการเงินในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐและจีน รวมถึงสงครามที่ยืดเยื้อในยูเครน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงขาลงต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,258.08 จุด ลดลง 19.47 จุด หรือ -0.59%

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงอย่างมาก โดยโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3% จาก 3.3% ขณะที่โนมูระปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2565 ลงเหลือ 2.8% จากระดับ 3.3%

นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนซึ่งมีกำหนดแถลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และ 5 ปีในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.10% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LRP ประเภท 5 ปีลงมากกว่า 0.10% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

การคาดการณ์ดังกล่าวของนักวิเคราะห์มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังจากตลาดเปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างซบเซาของจีน ซึ่งได้แรงรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, วิกฤตอสังหาริมทรัพย์, คลื่นความร้อนที่สูงเป็นประวัติการณ์ และแนวโน้มที่จำกัดในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

และนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 19,773.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.12 จุด หรือ +0.05%

ก่อนที่ BTC จะมาร่วงลงอย่างหนักในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นการร่ววลงรอบที่สองของวันนี้ จากความปั่นป่วนของตลาดหุ้นยุโรป

หุ้นยุโรปได้ร่วงลงในวันนี้ โดยมีแนวโน้มปรับตัวลงเมื่อคำนวณรวมเป็นรายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการคุมเข้มนโยบายการเงิน แรงกดดันเงินเฟ้อ และวิกฤตพลังงานจะฉุดให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 440.06 จุด ลดลง 0.70 จุด หรือ -0.16% โดยหุ้นกลุ่มการเดินทางร่วงนำตลาด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 13,591.24 จุด ลดลง 106.17 จุด หรือ -0.78% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,520.44 จุด ลดลง 36.96 จุด หรือ -0.56%

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการมาปรับตัวลง 0.5% จาก Dollar Index ปรับขึ้น และสัปดาห์หน้าสหรัฐและเกาหลีใต้ซ้อมรบครั้งใหญ่ ขณะเดียวกัน จีนโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จะเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจซ้อมรบกับกองทัพรัสเซีย เป็นการสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตอบตกลงจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือน พ.ย.นี้ ทำให้ตลาดกังวลการเผชิญหน้าของผู้นำสหรัฐ และฝั่งจีนกับรัสเซีย

และในสัปดาห์หน้ายังจะมีการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ด้วย

ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสถิติยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยในเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) ว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะ 8.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ หลังปรับตัวขึ้นสู่ 8.6% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวขึ้น 4.0% สอดคล้องกับการคาดการณ์เช่นเดียวกัน

ขณะที่ เงินเฟ้อรายปีของสหภาพยุโรป (EU) ปรับตัวสู่ 9.8% ในเดือนก.ค. หลังอยู่ที่ 9.6% ในเดือนมิ.ย.

ตลาดหุ้นเยอรมนีได้ร่วงลงจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล

รายงานระบุว่า ราคาพลังงานพุ่งขึ้น 105% เมื่อเทียบรายปี โดยได้แรงหนุนหลักจากราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งขึ้น 163.8% เมื่อเทียบรายปี รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ทะยานขึ้น 125.4% เมื่อเทียบรายปี

หากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 14.6% เมื่อเทียบรายปี

ส่วนราคาสินค้าขั้นกลางในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบรายปี โดยได้แรงหนุนหลักจากราคาโลหะที่พุ่งขึ้น 24.1%

ด้านราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทไม่คงทนเพิ่มขึ้น 16.2% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี ส่วนสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทคงทนปรับตัวขึ้น 10.9% และราคาสินค้าประเภททุนปรับตัวขึ้น 8% เมื่อเทียบรายปี

ในขณะที่ตลาดหุ้นอังกฤษได้ร่วงลงจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนก.ค.ของอังกฤษสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งตอกย้ำความท้าทายที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษต้องเผชิญ เพื่อเพิ่มการสนับสนุนผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งทะยานขึ้น

รายงานระบุว่า การกู้ยืมเงินของภาคสาธารณะ ซึ่งไม่รวมธนาคารภาครัฐ อยู่ที่ 4.944 พันล้านปอนด์ (5.89 พันล้านดอลลาร์)

นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของอังกฤษจะอยู่ที่ 2.8 พันล้านปอนด์ในเดือนก.ค. ซึ่งปกติแล้วเป็นเดือนที่รัฐบาลจะจัดเก็บภาษีเข้าคลัง

สถาบันวิจัย GfK เปิดเผยว่า ภาคครัวเรือนอังกฤษไม่พอใจกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2517 เป็นอย่างน้อย

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -44 ในเดือนส.ค. จาก -41 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการทำผลสำรวจ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับลงสู่ -42

ความเคลื่อนไหวของเฟด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ได้ส่งผลให้ BTC ได้ร่วงลงอย่างหนัก!!!

นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. ล้วนมีความเหมาะสมเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่เหนือระดับ 3% ภายในปลายปีนี้ และสูงขึ้นอีกเล็กน้อยในปี 2566

นางดาลีกล่าวเสริมว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับดังกล่าว และกำลังชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐ เฟดก็ควรจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป และไม่ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว

นางดาลีระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด แต่เฟดก็ไม่ควรดำเนินการผิดพลาดด้วยการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

"ผมมองไม่เห็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า โดยเฟดควรปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 3.75-4.00% ภายในสิ้นปีนี้" นายบูลลาร์ดกล่าว

คำกล่าวของนายบูลลาร์ดสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.

ทั้งนี้ นายบูลลาร์ดเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย ขณะที่เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยเขาเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการเฟดชุดปัจจุบันจะไม่นำพาเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่นายพอล วอล์คเกอร์ ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในช่วงต้นทศวรรษ 1980

ตลาดคาดการณ์กันในวงกว้างว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. แต่มีโอกาส 1 ใน 3 ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% นอกจากนี้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐจะแตะจุดสูงสุดที่อย่างน้อย 3.50% แต่สมาชิกบางรายของเฟดสนับสนุนให้ดอกเบี้ยแตะระดับ 4% ขึ้นไป

และจากปัจจัยนี้เองได้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฟิวเจอร์สได้มีการร่วงลงเรื่อยๆมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ และกดดันราคา BTC ให้ร่วงลงอย่างหนักไปพร้อมๆกับการร่วงลงของตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นยุโรปนั่นเอง

และจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้กดดันราคาน้ำมันให้ร่วงลงด้วยเช่นกัน

ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY ได้มีการพุ่งขึ้นอย่างมากมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 108 จุดได้อีกครั้ง และยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยดังนี้

1. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการประกาศออกมาในเมื่อคืนนี้ออกมาดีมาก

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 250,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 265,000 ราย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นสู่ระดับ +6.2 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -5.0 จากระดับ -12.3 ในเดือนก.ค.

ดัชนีอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกมีการขยายตัว

2. ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง และเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้น กดดันให้สกุลเงินยูโร EUR อ่อนค่า

3. ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง จากดัชนี PPI ที่ออกมาเพิ่มขึ้น กดดันให้สกุลเงินยูโร EUR อ่อนค่าเช่นกัน

4. ตลาดหุ้นอังกฤษร่วงลง จากตัวเลขเศรษฐกิจของอังกฤษที่ออกมาแย่ กดดันให้สกุลเงินปอนด์ GBP อ่อนค่า

5. ตลาดหุ้นจีนร่วงลง กดดันให้สกุลเงินหยวน CNY สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD และสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD อ่อนค่าลงทั้งหมด

6. ความเคลื่อนไหวของเฟดครั้งล่าสุด ได้ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้นอย่างมาก

ในขณะที่ราคาทองคำนั้นได้ร่วงลงเช่นเดียวกัน จากปัจจัยดังนี้

1. การพุ่งขึ้นของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY

2. การร่วงลงของตลาดหุ้นจีน

3. การอ่อนค่าลงของสกุลเงินหยวน CNY สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD และสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD

4. ความเคลื่อนไหวของเฟดครั้งล่าสุด

และนี่ก็คือบทสรุปของความปั่นป่วนของตลาดในวันนี้ครับ!!!

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย