รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

2Q65 บริษัทจดทะเบียนกำไร 3.46 แสนล้านบาท 

เผยแพร่ 17/08/2565 10:10
อัพเดท 09/07/2566 17:32

สรุปผลประกอบการงวด 2Q65 ของบริษัทจดทะเบียนพบว่ามีกำไรสุทธิรวม 3.46 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% QoQ และ 26.6% YoY นับเป็นฐานกำไรสุทธิที่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตัวเลขดังกล่าวจะนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 เบื้องต้นเป็นไปได้ที่จะเห็นกำไรสุทธิรวมสูงกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งน่าจะ เป็นแรงดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำ กำไรได้สูงสุดคือกลุ่มพลังงาน มีฐานกำไร 1.42 แสนล้านบาทเพิ่ม 116% YoYและ 48% QoQ ฝ่ายวิจัยได้สังเกตุเห็นการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกในตลาดหุ้น สหรัฐ อย่างมีนัยสำคัญ และทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลี่อนดัชนีDJIA ซึ่งเป็นไปได้ที่จะ เห็นกระแสการลงทุนใน Theme ดังกล่าวในตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน ส่วนทิศทาง ของ Fund Flow เชื่อว่าจะเห็นการไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

SET Index กำลังจะผ่านแนวต้าน 1630 จุด แต่ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1640 จุด แนวรับ 1610 จุด พอร์ตจำลองวันนี้ไม่มีการปรับเปลี่ยน ส่วนหุ้น Top Pick เลือก CRC, KTB และ M

อัตราเงินเฟ้อไทยอาจทรงตัวในระดับสูง จากราคาสินค้าหลายอย่าง ยังไม่ ปรับขึ้น แต่คาดได้แรงพยุงจากการทยอยเปิดประเทศ

แม้อัตราเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค.65 +7.61%YoY และต่ำกว่าเดือนก่อนที่ +7.7%YoY เล็กน้อยอย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯคาดอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค.65 จะทรงตัวในระดับสูง จาก 3 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

1. กกพ. ประกาศปรับขึ้นค่า FT ก.ย- ธ.ค 65 ค่าเอฟที ในรอบเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2565 ปรับเพิ่มค่าเอฟทีอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็นค่าเอฟทีทั้งสิ้น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย สาเหตุมา จากสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) ที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อ ทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่าที่ปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญรวมทั้ง ความผันผวนของ Spot LNG ในตลาดโลก ประเด็นเด็นดังกล่าวดีต่อหุ้น GULF GPSC BGRIM

2. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาจปรับราคาขึ้น ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ราย ลงนามยื่น หนังสือเร่งกรมการค้าฯพิจารณาไฟเขียวปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จาก 6 บาท เป็น 8 บาท จากราคาต้นทุนที่สูงขึ้นทั้ง แป้งสาลีน้ำมันปาล์ม และบรรจุภัณฑ์ พลาสติก ซึ่งต่างเพิ่มขึ้นในลักษณะของการปรับฐานระยะยาวไม่มีทีท่าจะลดลง ประเด็นเด็นดังกล่าวดีต่อหุ้น TFMAMA

3. ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกยังทรงตัวระดับเดิม แม้ทิศทางราคาน้ำมันดิบโลก ปรับตัวลง โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคา น้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มติคณะรัฐมนตรีได้ วางมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยใช้กลไกผ่านกองทุนน้ำมันเพื่อ พยุงราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 14 สิงหาคม ติดลบ 117,394 ล้านบาท (แบ่งเป็นหนี้ในส่วนของน้ำมัน –76,518 ล้าน บาท และ LPG -40,876 ล้านบาท) ดังนั้นเพื่อเป็นการนำเงินมาบริหารสภาพคล่อง ให้แก่กองทุนน้ำมัน จึงมีการเรียกเก็บอัตราน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนมากขึ้น โดย ยังคงยืนราคาน้ำมันดีเซลที่ 35 บาท/ลิตรไว้เช่นเดิม

โดยสรุปอัตราเงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง จาก 3 เหตุผลข้างต้น อย่างไรก็ ตามภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปียังดูดีและ ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก การเปิด ประเทศ, การผ่อนคลายมาตรการโควิด รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนจาก ภาครัฐฯ

FLOW ต่างชาติยังไหลเข้าหุ้นไทย มากสุดเป็นประวัติการณ์(YTD) เน้นหุ้น ขนาดใหญ่เป้าหมาย FLOW ต่างชาติเป็นหลัก

แม้ตลาดจะเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์จีนไต้หวัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค.65 บวกกับความเสี่ยง Recession ของประเทศฝั่งพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ฯลฯ อย่างไรก็ ตามประเทศฝั่งกำลังพัฒนาเริ่มเห็นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หรือ GDP Growth ยังเป็นบวกอยู่ จึงทำให้เป็นเป้าหมาย Flow ต่างชาติในการลงทุน โดยตั้งแต่ต้นเดือนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นใน ภูมิภาคราว 1566 ล้านเหรียญ (mtd) เริ่มจากเกาหลีใต้ถูกซื้อสุทธิ 1534 ล้านเหรียญ (mtd) อินโดนีเซีย 176 ล้านเหรียญ (mtd) และ ไทย 826 ล้านเหรียญ (mtd) หรือ 2.9 หมื่นล้านบาท (mtd) หนุนในปีนี้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยไปแล้ว 1.46 แสนล้านบาท (ytd) มาก สุดเป็นประวัติการณ์

โดยสถิติในอดีต ชี้ให้เห็นว่า ปีไหนก็ตามที่ต่างชาติซื้อหุ้นไทยปริมาณมาก SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นเสมอ และฝ่ายวิจัยฯ จึงค้นหารายชื้อหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมส่วน ใหญ่จะเป็นหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยหุ้นเด่นที่ฝ่าย วิจัยฯ ชื่นชอบ และยังมีแนวโน้มกำไรฟื้นต่อเนื่องได้ในช่วงที่เหลือของปี คือ BEM, BH, CENTEL, CRC, KTB, M เป็นต้น

หุ้นค้าปลีกไทยอาจฟื้นตามหุ้นสหรัฐในช่วงสั้นๆ ได้เช่นกัน

วานนี้หุ้นสหรัฐมีการสลับบวกสลับลบ แต่ภาพรวมกลับเห็นดัชนี Dow Jones ปรับขึ้น 239 จุด หรือ 0.7% โดยได้แรงหนุนหลักจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่งบ 2Q65 ออกมาดีกว่าคาดมาก ดังนี้

- ราคาหุ้น Walmart +5.11% มีEPS2Q65 1.09 ดอลลาร์/หุ้น (ตลาดคาด 0.97 ดอลลาร์/หุ้น)

- ราคาหุ้น Home Depot +4.06% มีEPS2Q65 5.05 ดอลลาร์/หุ้น (ตลาดคาด 4.09 ดอลลาร์/หุ้น) และหุ้น Home Depot มีราคาสูงสุดเป็นอันดับ 3 ซึ่งเป็น สัดส่วนหลักที่หนุน Price Index อย่าง Dow Jones วานนี้

แสดงให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนแรงอย่างที่ตลาดคิด

กลับมาที่หุ้นค้าปลีกของไทยเองก็น่าจะตอบรับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อไปมากเช่นกัน สะท้อนได้จากผลตอบแทนตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. (นักลงทุนเริ่มกังวล Fed จะเร่งขึ้นดอกบั้ย สกัดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) ถึงปัจจุบัน พบว่า กลุ่ม COMM ลงแรงถึง -10.68% แต่ SET ปรับตัว ลงเพียง -3.85%

และคาดว่าหุ้นค้าปลีกไทยอาจฟื้นตามหุ้นสหรัฐในช่วงสั้นๆ ได้เช่นกัน โดยแนะนำ HMPRO, COM7 (ภาพทางเทิคนิคดูดี) และ CPALL (BK:CPALL), CRC (หุ้นใหญ่หวัง Fund Flow หนุน เพิ่มเติม)

กำไรงวด 2Q65โดดเด่น ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ล่าสุดบริษัทจดทะเบียนรายงานงบ 2Q65 ไปแล้วทั้งสิ้น 625 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 99% ของ Market Cap. รวมทั้งตลาด) มีกำไรสุทธิ 3.46 แสนล้านบาท เติบโต 22.4%QoQ และ 26.6%YoY

หนุนให้กำไรงวด 2Q65 ขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับกำไรสูงสุดเดิมใน งวด 1Q61 ที่ 2.95 แสนล้านบาท

แม้นักลงทุนจะกังวลภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการงวด 2Q65 แต่หาก วิเคราะห์ให้ลึกลงไป เป็นราย Sector พบว่า มีกลุ่มที่เติบโตทั้ง QoQ และYoY คือ ENERG, TRANS, ETRON, PF&REIT, MEDIA, FOOD, PKG, BANK, PROP, FASHION เป็นต้น โดยกำไรจากหุ้นในกลุ่มพลังงานปิโตรเคมี(กลุ่ม Energy + Petro) เท่ากับ 1.67 แสนล้าน บาท เติบโตโดดเด่น 65%YoY และ 43%QoQ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยืนในระดับสูงหนุน Stock Gain เพิ่มขึ้นเด่น ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่เหลือ กำไรเท่ากับ 1.79 แสนล้านบาท ก็ยัง เติบโตเด่นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 4%YoY และ 7%QoQ แม้เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ แต่การ กลับมาเปิดประเทศหนุนกำไรกลับมาเติบโตเด่นเช่นกัน

ดังนั้นกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง หนุนให้กำไร 1H65 สูงถึง 6.29 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน กว่า 60% ของประมาณการเดิม ที่ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินไว้ที่ 1.04 ล้านล้านบาท (EPS65F 88.9 บาท/หุ้น) ขณะที่ฝ่ายวิจัย ASPS อยู่ในช่วงทบทวนประมาณการกำไรทั้งปี เพิ่มขึ้น พร้อมกับหนุนดัชนีเป้าหมายปรับขึ้นเช่นเดียวกัน ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาด หุ้นหลังจากกังวลกับประเด็นกำไรจะถูกกดดันลดลงมาพักหนึ่ง

สำหรับกลยุทธ์วันนี้ ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด 1610 -1640 จุด หุ้นเด่นวันนี้ เลือก หุ้นขนาดใหญ่ได้แรงหนุนจาก Fund flow พร้อมมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่าง KTB (ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น มีแรงหนุนจากการกู้เงินของภาครัฐเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ), M (หุ้นกำไรดี ราคา Laggard) และ CRC (กำไรเติบโตต่อ คาดหวังฟื้นตัวตาม หุ้นค้าปลีกโลก) เป็น Top pick

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย