หลังจากต้องรับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ธุรกิจสายการบินของสหรัฐอเมริกาจึงหวังเป็นอย่างมากที่จะเร่งทำกำไรจนสามารถกลับขึ้นไปยืนในจุดเดิมได้ เมื่อคิดเช่นนั้น พวกเขาจึงหวังกับการเดินทางท่องเที่ยวของชาวอเมริกันในช่วงฤดูร้อนนี้เอาไว้มาก ความคาดหวังนี้ยังสัมผัสไปถึงนักลงทุนจนทำให้ราคาหุ้นของสายการบินปรับตัวสูงขึ้น ก่อนที่จะมาเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่อาจควบคุมได้
ในระหว่างที่สายการบินหวังจะทำกำไรด้วยการขึ้นราคาตั๋วเพราะความต้องการเดินทางกลับมาแล้วนั้น ก็ดันเกิดเหตุการณ์อย่างสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน เงินเฟ้อ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ที่กลายมาเป็นอุปสรรคใหม่ ซึ่งเข้ามากดดันหุ้นสายการบิน และส่งให้กลุ่มหุ้นนี้ปรับตัวลดลง อ้างอิงข้อมูลจากกองทุน ETF ที่รวบรวมหุ้นสายการบินของสหรัฐอเมริกาใหญ่ที่สุดอย่าง U.S. Global Jets ETF (NYSE:JETS) ในปีนี้ได้ปรับตัวลดลงมาแล้ว 19%
อย่างไรก็ตาม สายการบินต่างๆ ยังพยายามมองโลกในแง่ดี ยกตัวอย่างเช่นสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (NASDAQ:AAL) ที่คาดว่ารายงานในไตรมาสนี้จะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 13% เมื่อเทียบกับปี 2019 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิม 6-8% เพราะนักท่องเที่ยวจะกลับมาเดินทางหลังจากที่ต้องอัดอั้นมาตลอดสองปี เช่นเดียวกันกับสายการบิน เดลตา แอร์ไลน์ (NYSE:DAL) ที่ปรับตัวเลขรายได้ขึ้นมากถึง 100% จากปี 2019 ด้วยความเชื่อในลักษณะเดียวกัน
แม้ว่าสายการบินชื่อดังจะตั้งความหวังเอาไว้สูง แต่ความเป็นจริงในตอนนี้คือราคาหุ้น AAL และ DAL ที่ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน ปรับตัวลดลงไปแล้ว 18.2% และ 25.9% ตามลำดับ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้นถือเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับสายการบิน ถ้าไม่ขึ้นราคาตั๋วโดยสาร ก็ต้องยอมลดเที่ยวบินลง ซึ่งสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ก็ได้ปรับเพิ่มราคาที่นั่งต่อไมล์ในไตรมาสนี้ขึ้นแล้ว 22% เมื่อเทียบจากราคาในปี 2019
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นักวิเคราะห์จึงไม่เชื่อว่าหุ้นสายการบินจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากขาลงได้ภายในระยะเวลาอีก 12 เดือนนับจากนี้ ตราบใดที่ยังมีความเสี่ยงเรื่องต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันที่ยังคงแพง และความเสี่ยงที่จีนพร้อมล็อกดาวน์เมืองอีกหากพบว่าเจอการระบาดของโควิด นักวิเคราะห์จาก Stifel คาดว่าหน้าร้อนปีนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับสายการบิน และถ้าไม่สามารถฟื้นตัวในช่วงหน้าร้อนนี้ได้ ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวก็ไม่ต้องหวังเลย เพราะความต้องการท่องเที่ยวที่อัดอั้นมานานก็จะผ่านไปแล้วในช่วงนั้น
นอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นแล้ว ยังมีอุปสรรคในการปฏิบัติงานเพิ่มเติม ที่ส่งผลกระทบต่อสายการบินอีกด้วย ผู้ให้บริการสายการบินในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมดได้ยกเลิกแผนกำลังการผลิตเครื่องบินในไตรมาสที่สอง โดยมีการปรับลดจำนวนเครื่องลงในไตรมาสที่สาม ตอนนี้สายการบินกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความต้องการที่เพิ่มขึ้นกับแรงกดดันด้านต้นทุนในการดำเนินการ รวมถึงการขาดแคลนนักบินและพนักงานต้อนรับ
การปื้นตัวของสายการบินขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกมากมาย การถดถอยทางเศรษฐกิจอาจเสี่ยงที่ทำให้โรงแรมต้องปลดพนักงานมากขึ้น โควิดอาจมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันุ์ใหม่ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่จบ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ไม่น่าจะกลับมาจ้างพนักงานจำนวนมาก และยังคงให้พนักงานบางส่วนทำงานจากทางไกล ในขณะที่ผู้จัดการยังคงมองหาวิธีลดต้นทุนการดำเนินกิจการให้ได้มากที่สุด
โดยสรุปแล้ว
แม้ว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินจะกลับมา แต่ในแง่ของการบริหาร สายการบินเหล่านี้ยังไม่สามารถใช้หนี้เก่าในช่วงโควิดหมด ก็ต้องมารับผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น สภาพเศรษฐกิจถดถอย และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่กดดันหุ้นสายการบินให้ปรับตัวลดลง