💎 เปิดเผยหุ้นราคาถูกที่ซ่อนอยู่ในตลาดเริ่มต้นเลย

3 กองทุน ETF การันตีรายได้โดยไม่ต้องสนใจสภาพตลาด

เผยแพร่ 26/05/2565 16:26
US500
-
MSFT
-
GOOGL
-
AAPL
-
AMZN
-
PLD
-
AMT
-
PSA
-
EQIX
-
SCCO
-
CCI
-
ET
-
MMP
-
EPD
-
MLPA
-
SCHH
-
GOOG
-
MPLX
-
WES
-
FTHI
-

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันมาตลอดทั้งปีของนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท และนับวันก็ยิ่งมีประเด็นนี้เพิ่มมากขึ้น แม้จะมีรายงานจากกองทุน Hartford ที่ระบุว่าอัตราการปันผลเฉลี่ยที่ได้จาก S&P 500 ในระหว่างปี 1930 - 2021 อยู่ที่ 40% แต่แรงเทขายในปัจจุบันได้ผลักดัชนีS&P 500 ให้ยืนอยู่ขอบผาของการร่วงลงสู่สิ่งที่เรียกว่า “ตลาดหมีอย่างเป็นทางการ” 

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่นักลงทุนต้องการคือสินทรัพย์หรือตลาดไหนก็ได้ที่สามารถทำกำไรไปพร้อมๆ กับการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และ ETF ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อนุญาตให้นักลงทุนเข้ามาหลบภัยและทำกำไรไปในเวลาเดียวกัน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำกองทุน ETF ที่สามารถสร้างกำไรให้กับผู้ถือครอง ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวนเช่นนี้ได้

1. Global X MLP ETF

ระดับราคาปัจจุบัน: $42.00
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $32.29 - $43.45
เปอร์เซ็นต์การปันผล: 7.35%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.45% ต่อปี

ห้างหุ้นส่วนจำกัด (MLP) เป็นสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐาน ที่มีการซื้อขายในสาธารณะโดยไม่ต้องเสียภาษีในระดับองค์กร 90% ของรายได้มาจากการสำรวจและการผลิต การขนส่ง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแร่หรือทรัพยากรธรรมชาติ MLPs มักจะกระจายกระแสเงินสดมากกว่า 70% ให้กับนักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ซึ่งมักจะเกิน 7%

ดังนั้นกองทุนตัวแรกที่เราจะแนะนำจึงมีความเกี่ยวข้องกับ MLP นั้นคือ Global X MLP ETF (NYSE:MLPA) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนกับบริษัทที่มี MLP อยู่ในการขนส่ง คลังเก็งสินค้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน กองทุนนี้เป็นให้ลงทุนครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2012MLPA Weekly Chart

MLPA เป็นกองทุนที่อ้างอิงราคาตามดัชนี Solactive MLP Infrastructure Index ปัจจุบันถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 20 บริษัท หากพิจารณาการถือครองออกเป็นสัดส่วนจะพบว่า MLPA ถือครองหุ้นในกลุ่มขนส่ง และคลังเก็บสินค้าปิโตรเลียม (46.2%) กลุ่มการรวบรวมและการประมวลผล (29.4%) และคลังเก็บก๊าซธรรมชาติ (24.4%)

หุ้น 10 ตัวแรกของกองทุนคิดเป็นสองในสามของสินทรัพย์ทั้งหมด $1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Enterprise Products Partners (NYSE:EPD), Energy Transfer (NYSE:ET), Magellan Midstream Partners (NYSE:MMP), MPLX (NYSE:MPLX) และ Western Midstream Partners (NYSE:WES)

ตั้งแต่ต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน MLPA สามารถทำกำไรคืนมาแล้ว 19.5% และ 8.5% ภายใน 52 สัปดาห์ล่าสุด มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 11.53x และ 2.70x ตามลำดับ

2. First Trust BuyWrite Income ETF

ระดับราคาปัจจุบัน: $21.23
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $20.23 - $23.32
เปอร์เซ็นต์การปันผล: 9.72%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.85% ต่อปี

กองทุนตัวถัดมามีชื่อว่า First Trust BuyWrite Income ETF (NASDAQ:FTHI) กองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดออปชัน โดยจะเลือกเฉพาะหุ้นที่ทำกำไรจากการ short calls overlay หุ้นบนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เท่านั้น ดังนั้นกองทุนนี้จึงจะทำกำไรจากการเทขายหุ้นผ่านตลาดออปชันFTHI Weekly Chart

FTHI เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2014 หุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนคิดเป็นเกือบ 25% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $45 ล้านเหรียญสหรัฐ หากพิจารณาการถือครองออกเป็นสัดส่วน จะพบว่า FTHI ถือครองหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีมากที่สุด 22.3% ตามมาด้วยกลุ่มดูแลสุขภาพ 13.6% กลุ่มพลังงาน 11.6% กลุ่มสินค้าจำเป็น 10.6% และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 8.5%

หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Apple (NASDAQ:AAPL), Microsoft (NASDAQ:MSFT), Amazon.com (NASDAQ:AMZN), Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Southern Copper (NYSE:SCCO)

ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมมาจนถึงปัจจุบัน FTHI ปรับตัวลดลงมา 3.4% และปรับตัวลดลงมาแล้ว 4.3% ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด เทียบกับดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวลดลงมาในช่วงเวลาเดียวกัน 16.5% และ 6% มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 14.45x และ 2.37x ตามลำดับ

กองทุน ETF Covered call นี้เป็นกองทุนเฉพาะตลาดออปชัน ที่ทำกำไรในช่วงที่ตลาดผันผวน นักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในตลาดออปชันควรศึกษาเพิ่มเติม

3. Schwab US REIT ETF

ระดับราคาปัจจุบัน: $22.53
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $21.43 - $26.54
เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.62%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.07% ต่อปี

โดยปกติแล้ว ช่วงเงินเฟ้อจะทำให้ราคาของสินทรัพย์และบริษัทที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงขึ้น เช่น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ตามรายงานล่าสุดโดยสมาคมแห่งชาติของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (NAREIT) ระบุว่า REITs ให้ความคุ้มครองเงินทุนในยามที่ต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อ สัญญาเช่าระยะยาวมักจะมีการป้องกันเงินเฟ้อไปในตัว และสัญญาเช่าระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับระดับราคาในปัจจุบัน

ดังนั้นกองทุนตัวสุดท้ายของเรา Schwab US REIT ETF (NYSE:SCHH) จึงมีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ SCHH เป็นกองทุนที่ลงทุนใน REIT ของสหรัฐอเมริกา ที่ไม่รวมถึง REIT ที่มีการจำนอง กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2011SCHH Weekly Chart

ปัจจุบัน SCHH ถือครองหุ้นทั้งหมด 142 ตัว หุ้น 10 อันดับแรกคิดเป็นเกือบ 40% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังในกองทุนนี้ได้แก่ American Tower (NYSE:AMT) Crown Castle International (NYSE:CCI) Prologis (NYSE:PLD) Equinix (NASDAQ:EQIX) และ Public Storage (NYSE:PSA)

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน SCHH ปรับตัวลดลงมา 14.4% แต่หากพิจารณาตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด จะพบว่า SCHH มอบผลตอบแทนคืนมาแล้วเกือบ 0.8% มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 38.20x และ 3.04x ตามลำดับ หากปรับตัวลงมาถึงระดับราคา $21 ถือเป็นจุดเข้าที่ดีกับการลงทุน ETF ตัวนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย