Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,620 จุด คาด SET จะ เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ตอบรับการที่ตลาดถูกปรับลดทอน PE Multiplier หลังเฟดดําเนิน นโยบายการเงินเข้มงวดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแผนทํา QT ที่จะเริ่ม มิ.ย. 65 ในอัตรา 47.5 พันล้านเหรียญต่อเดือน ประกอบกับระยะสั้น SET ยังขาดปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัว ขณะที่การ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก เพิ่มความกังวลต่อการที่ ธปท. อาจเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ในภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอ ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ที่การรายงาน CP สหรัฐฯ วันที่ 11 พ.ค. (เช้าวันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาไทย) ซึ่งจะเป็นน้ําหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการ ประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนํา Selective buy หุ้นมีปัจจัย บวกเฉพาะตัว ได้แก่ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเลือก ASIAN SAPPE และ MEGA (ส่วนต่าง Bond yield ที่เพิ่มขึ้น ยิ่งหนุนค่าเงินบาทอ่อน) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เราเลือก BLA และ TIPH หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS BEM PTG SUSCO MINT ERW VRANDA และ SHR และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อในประเทศที่ปรับเพิ่ม เรา เลือก BEM Bond Yield ปรับเพิ่มกตุตันการลงทุนในสินทรัพย์เสียง - ภาพรวมการลงทุนยังคงถูกกดดันจากการ คาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. มากถึง 75bps แม้หลังการประชุม March Meeting ที่ผ่านมา ประธานเฟดจะยืนยันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 50bps และการขึ้น 75bps ไม่เคยอยู่ในการพิจารณา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคง เคลื่อนไหวอยู่เหนือ 396 โตยปรับขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่ 3.296 ในระหว่างวัน โดยเรายังคงต้องติดตามรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค วันที่ 11 พ.ค. (ทราบผลเช้าวันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาไทย) ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจกําหนดนโยบายการเงินของเฟต ในการประชุมเดือน มิ.ย. จีนรายงานยอดเกินดุล 5.1 หมื่นล้านเหรียญ ในเดือน เม.ย. แต่แนวโน้มยังถูกกดดันจากมาตรการล็อกดาวน์ ในประเทศ - สํานักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานยอดส่งออกของจีนในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.99%YoY เป็น การขยายตัวในอัตราต่ําสุดนับตั้งแต่ เดือน มิ.ย. 2563 และเป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมาก จาก เดือน มี.ค. ที่มีการขยายตัว 14.79%YoY ต้านการนําเข้าทรงตัว ในเดือน เม.ย. หลังเดือน มี.ค. สตริง 0.1%YoY ดีกว่าที่ Market Consensus คาดว่าจะหดตัว 39%YoY ทําให้จีนมียอดเกินดุลการค้า ในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 5.112 หมื่นล้านเหรียญ ดีกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 5.065 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น จากเดือน มี.ค. ที่มียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 4,738 หมื่นล้านเหรียญ เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากการ ที่รัฐบาลเดินหน้าใช้มาตรการล็อกตาวน์เมืองสําคัญ ซึ่งรวมถึงเซียงไฮซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน โดยเมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ําสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณ บ่งชี้ว่าเซี่ยงไฮซึ่งมีประชากรจํานวนมากถึง 25 ล้านคนจะยกเลิกมาตรการลือกดาวน์
• เพิ่มน้ําหนักกลุ่ม Anti-Commodity หลังราคาน้ํามันดิบปรับลดลง เลือก EPG PTG SUSCOOSP CBG GULF CPALL CPALL และ BJC เป็นหุ้นเด่น
- สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรับลดลง 6.68 เหรียญ (-6.196) เป็นผลมาจาก (1) ประกาศของ ซาอุดี อารามโก วิสาหกิจผู้ผลิตน้ํามันรายใหญ่ที่สุด ของซาอุดีอาระเบีย ได้ลดราคาน้ํามันเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยปรับลต Crude Premium ในราคา น้ํามันดิบ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. ให้กับตลาดเอเซียจะเหลือ 4.4 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับผลสํารวจของ บรรดาผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและผู้ค้าน้ํามัน และเป็นการลดลงจากเดือน พ.ค. ที่ Crude Premium อยู่ ระดับ 9.35 เหรียญต่อบาร์เรล และ (2) การดําเนินนโยบายโควิตเป็นศูนย์ (Zero Covid Policy) ของ ทางการจีน โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน โดยมาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานาน จะ ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ํามัน โดยข้อมูลล่าสุดการนําเข้าน้ํามันของจีน ระหว่างเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. ลดลง 4.89%YoY ติตตามรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบประจําสัปดาห์ของสหรัฐฯ โดยสํานักงานสารสนเทศ ด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกําหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันที่ 11 พ.ค. (เวลา 21.30 น. ตามเวลาไทย) มุมมองของเราเชื่อว่าราคาน้ํามันดิบจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 100-110 เหรียญต่อบาร์เรล ตราบใดที่ปัจจัย ความไม่แน่นอนของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ยังไม่สิ้นสุด ประกอบกับการที่ EC เตรียม เสนอให้ประเทศ สมาชิก EU ระงับการนําเข้าน้ํามันดิบและผลิตภัณฑ์น้ํามันกลันจากรัสเซีย อย่างไรก็ตามเรากลับมาให้น้ําหนัก การลงทุนหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity เลือก EPG SMPC PTG SUSCOOR OSP CBG SCGP BGRIM GPSC GULF CPALL และ BJC
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก & TIPH (แนวต้าน 68.00-72.00 / แนวรับ 61.50-59.00 /Stop loss 53.75) G SUSCO (แนวต้าน 3.68-3.76 / แนวรับ 3.52-3.46 /Stop loss 3.24) Go Tu (แนวต้าน 17.3-17.9/ แนวรับ 16.4-16.0 / Stop loss 15.1)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities