รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

นักลงทุนตลาดกระทิง-หมียังคงสู้กันอย่างดุเดือด คาด CPI ทำการลงทุนสัปดาห์นี้ผันผวนต่อ

เผยแพร่ 09/05/2565 13:03
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ความผันผวนคงจะไม่จากตลาดลงทุนไปไหนโดยง่ายแน่นอน โดยเฉพาะในวันนี้ตลาดยังคงให้ความสนใจสถานการณ์เงินเฟ้อ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง นี่ยังไม่นับไฟสงครามในยุโรปตะวันออกที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ปัจจัยกดดันทั้งหลายเหล่านี้คือสาเหตุว่าทำไมดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นเอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ แนสแด็กและรัสเซล 2000 ถึงพากันปิดตลาดในสัปดาห์ที่แล้วติดลบ

แม้จะมึนักลงทุนบางกลุ่มพิจารณาว่านี่คือโอกาสช้อนซื้อ แต่ต้องไม่ลืมว่าการจะช้อนซื้อหุ้นในตอนนี้คือการยอมรับความเสี่ยงที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะตึงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เฟดประกาศออกมาแล้วว่าจะขึ้นตลอดทั้งปี สำหรับตอนนี้ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดที่จะดึงความสนใจจากนักลงทุนได้มากเท่าการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงการเติบโตของเงินเฟ้อ ตราบใดที่ตัวเลขทั้งสองนี้ไม่หยุดโต เราเชื่อว่าเฟดจะยิ่งเพิ่มโดสยากระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นเท่านั้น

ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ พวกเขาเชื่อว่าดัชนีราคาผู้ผลิต ที่เป็นมาตรวัดราคาค้าส่ง หรือต้นทุนการผลิตนั้นจะหดตัวลดลงจาก 11.2% ในเดือนมีนาคมเป็น 10.7% ในเดือนเมษายน ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นพระเอกของสัปดาห์นี้ คาดว่าจะออกมาต่ำกว่าตัวเลขในเดือนมีนาคมที่ 8.5% เล็กน้อย และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการวัดชีพจรทางด้านเศรษฐกิจในช่วงนี้คือกราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สามารถขึ้นยืนเหนือ 3% ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญในโลกการเงิน และในสัปดาห์ที่แล้วเราก็ได้เห็นแล้วว่าตลาดลงทุนตอบสนองกับความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรหลังจากการประชุมอัตราดอกเบี้ยที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ ก่อนหน้าที่จะมีการประชุม นักลงทุนต่างกังวลและคาดหวังว่าเฟดต้องเร่งจัดการกับเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% 

และเฟดก็ทำตามที่ตลาดต้องการ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% พร้อมประกาศดูดสภาพคล่องคืน ท่าทีของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นการแสดงความเชื่อมั่น ด้วยการให้ความหวังว่าจะสามารถพาเครื่องบินเศรษฐกิจของอเมริกาลงจอดได้อย่างปลอดภัย ตลาดลงทุนค่อนข้างดีใจกับผลการประชุมนี้ และส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวกลับขึ้นมาปิดบวกได้มากกว่า 500 จุด แต่ความดีใจนั้นกลับอยู่ได้ไม่นาน เพราะในวันพฤหัสบดี ขาขึ้นสีเขียวในวันก่อนหน้านั้นระเหยหายไปหมดอย่างรวดเร็ว ทิ้งเอาไว้แต่ขาลงเหมือนเช่นแต่ก่อนการประชุม ราวกับว่าไม่เคยมีการประชุมนั้นเกิดขึ้นมาก่อน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเมื่อวันศุกร์ที่แล้วสามารถทำราคาปิดได้ที่ 3.142% สร้างจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2018 ตอนนี้เหลืออีกเพียงแค่ 1% เท่านั้นกราฟอัตราผลตอบแทนฯ นี้ก็จะสามารถสร้างจุดสูงสุดที่ไม่เคยเห็นนับตั้งแต่ปี 2011 ได้แล้ว โดยทั่วไปแล้ว การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ปรับตัวขึ้นแปลว่าพันธบัตรรัฐบาลถูกเทขาย และนักลงทุนจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาพเศรษฐกิจที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเศรษฐกิจดี นักลงทุนมักจะหันไปหาตลาดหุ้น

แต่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้เหมือนกับในตำราเรียนเศรษฐศาสตร์ การเทขายพันธบัตรรัฐบาลเกิดขึ้นจากนักลงทุนมองว่าความเสี่ยงของเศรษฐกิจอเมริกามีสูงเกินไป ราคาพันธบัตรตอนนี้มีค่าน้อยกว่าผลตอบแทนในอนาคต ดังนั้น กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จึงทะยานขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกัน และเป็นสัปดาห์ที่แปดจากเก้าสัปดาห์ล่าสุดUST 10Y Weekly

อ้างอิง: TradingView

จากรูปนี้จะเห็นได้ว่าความกังวลของนักลงทุนทำเอารูปแบบคนแขวนคอ (Hanging Man) ที่เกิดจากแท่งเทียนของสัปดาห์ก่อนไม่มีค่าไปเลย สิ่งที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้คือเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ ที่ทำท่าว่ากำลังจะตัดเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ขึ้นไป หากเป็นเช่นนั้นจริงจะกลายเป็นการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเส้นนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 

สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือปฏิกริยาของตลาดหลังจากเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองตัดกันแล้ว เพราะนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่าอาจจะมีการทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในอีกหลายๆ ระดับต่อจากนี้ และก็จะเป็นหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ต้องออกมาทำให้นักลงทุนคลายความกังวลลง คำถามก็คือพวกเขาจะหาข้ออ้างอะไรมาพูดกับนักลงทุนดี? ตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อว่าคำว่า “ชั่วคราว” ของเฟดอีกแล้ว ประเด็นที่เฟดอาจจะยกมาพูดคือตัวเลขการจ้างงานฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้

หากต้องการทราบว่าตอนนี้ตลาดมีความนึกคิดเช่นไร เราสามารถดูได้จากพฤติกรรมของกราฟดัชนีหลักๆ เอสแอนด์พี 500 ถูกเทขายเป็นสัปดาห์ที่หกติดต่อกัน รัสเซล 2000 ลงไปลึกที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 ในขณะที่แนสแด็ก 100 ก็ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกัน จนสามารถลงไปสร้างจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 ได้ เพียงเท่านี้ก็คงจะได้คำตอบแล้วว่าตลาดลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามากน้อยเพียงใด

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 ตามกราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯDollar Daily

อ้างอิง: TradingView

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ตอนนี้กราฟดัชนีดอลลาร์กำลังอยู่ระหว่างการยืนเหนือธงขาลงอย่างสมบูรณ์ให้ได้ ในขณะเดียวกัน แม้ราคาทองคำจะปรับตัวกลับขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพรวมก็ยังคงเป็นแนวโน้มขาลง Gold Daily

จากรูปจะเห็นว่าราคาทองคำหลุดกรอบสามเหลี่ยมด้านล่างลงมา แม้จะมีความพยายามกลับขึ้นไปอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมเมื่อวันพฤหัสบดี แต่ก็ยังล้มเหลว แต่ขาลงของราคาทองคำก็ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าขาลงของราชาแห่งสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ ที่ปรับตัวลดลงมาสี่วันติดต่อกัน แม้แต่เมื่อวานนี้ก็ยังคงเดินหน้าสร้างขาลงอย่างต่อเนื่องBTC/USD Daily

กรอบขาขึ้นระยะสั้น ที่ทำมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 เรียกได้ว่าหลุดลงมาอย่างเป็นทางการได้แล้ว  ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จของขาลง ตามรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ที่ทำมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว คำถามคือขาลงรอบนี้จะลงไปต่ำกว่า $30,000 ได้หรือไม่

สุดท้าย ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นมา 5.6% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีข่าวว่ายุโรปตะวันตกจะสามารถลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียได้ภายในหกเดือน สร้างความกังวลต่อระดับอุปทานน้ำมันในตลาดโลกOil Daily

แม้ว่าจากรูปเราจะเห็นขาขึ้นทะลุกรอบสามเหลี่ยมขึ้นไปแล้ว แต่สถานการณ์ขาขึ้นในอนาคตยังคงต้องจับตาร่วมกับปัจจัยพื้นฐานอย่างใกล้ชิด

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EDT)

วันจันทร์

08:45 (สหรัฐฯ) ถ้อยแถลงจากสมาชิก FOMC นายราฟาเอล บอสติค

21:30 (ออสเตรเลีย) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก: คาดว่าจะหดตัวลดลงจาก 8.2% เหลือ 1.0% QoQ

 

วันอังคาร

05:00 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก ZEW: คาดว่าจะหดตัวลดลงจาก -41.0 เป็น -42.5

12:00 (สหรัฐฯ) ภาพรวมตลาดพลังงานระยะสั้นจาก EIA

 

วันพุธ 

04:00 (ยูโรโซน) ถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางยุโรป

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 0.4% MoM

10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: คาดว่าจะลดลงจาก 1.302M เป็น -0.829M

 

วันพฤหัสบดี

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงาน GDP: คาดว่า QoQ จะลดลงจาก 1.3% เป็น 1.1% และ YoY จะเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เป็น 9.0% 

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะลดลงจาก -0.4% เป็น -0.5%

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 194K เป็น 200K

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะลดลงจาก 1.4% เป็น 0.5%

 

วันศุกร์

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาการส่งออก: คาดว่าจะลดลงจาก 4.5% เป็น 0.7% ในเดือนเมษายน

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาการนำเข้า: คาดว่าจะลดลงจาก 2.6% เป็น 0.6%

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย