รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: Peloton, Walt Disney, Rivian

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 09/05/2565 14:17
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจเผชิญกับความผันผวนต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ เมื่อความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังใกล้ระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ ได้หรือไม่สะท้อนออกมาอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันตกต่ำ

ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% พร้อมกันนั้น เฟดก็ส่งสัญญาณว่าจะดูดสภาพคล่องคืนด้วยการทำ QT นักลงทุนในตลาดหุ้น ที่จับตาดูตลาดตราสารหนี้อย่างใกล้ชิด ได้แสดงออกอย่างชัดเจนด้วยการทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 3% และยังไม่ยอมลงมา นั่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2018 อัตราผลตอบแทนฯ เมื่อวันศุกร์มีระดับอยู่ที่ 3.13% เพิ่มขึ้นจาก 2.94% ในสัปดาห์ก่อน ในขณะเดียวกัน ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ปรับตัวลดลง 0.2%  นับเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า ซึ่งเป็นสถิติขาดทุนต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของดัชนี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2011 นอกจาก S&P 500 แล้ว ดัชนีหุ้นเทคฯ อย่างแนสแด็กก็ปรับตัวลดลง 1.4% เช่นเดียวกัน

เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ในบทความนี้คือรายชื่อบริษัทสามแห่งที่มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการล่าสุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทมีความเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ

1. Peloton

สตาร์ทอัพฟิตเนสชื่อดังของสหรัฐอเมริกา Peloton Interactive (NASDAQ:PTON) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2022 ในวันอังคารที่ 10 พฤษภาคมก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ Peloton จะสามารถทำกำไรได้ $969 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.83 PTON Weekly TTM

การที่รูปแบบการใช้ชีวิตของชาวอเมริกันเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้หุ้นของ Peloton ปีนี้ปรับตัวลดลงมาแล้วมากกว่า 50% ประกอบกับภาพรวมของตลาดลงทุนในปัจจุบัน ที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกเทขายอย่างหนัก ภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลน ยิ่งทำให้ผู้คนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ล่าสุดหุ้น Peloton มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $15.70

สำนักข่าวบลูมเบิร์กมีรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Peloton กำลังเร่ขายหุ้นของตัวเองประมาณ 20% เพื่อหวังว่าจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่หรือนักลงทุนเข้ามาถือหุ้นของพวกเขาเอาไว้ ล่าสุดดูเหมือนว่า Peloton จะเจอผู้ที่มีศักยภาพและสนใจจะถือหุ้นของพวกเขาแล้ว แต่สัญญานั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น

2. Disney

บริษัทเจ้าของอาณาจักรมิกกี้เมาส์ จักรวาลมาร์เวล และสตาร์ วอร์ (NYSE:DIS) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ในวันพุธที่ 11 พฤษภาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ดิสนีย์จะสามารถทำกำไรได้ $20,050 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.19DIS Weekly TTM

เมื่อเทียบกับหุ้นบริษัทอื่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ต้องยอมรับว่าหุ้นดิสนีย์ในปีนี้ทำผลปรับตัวขึ้นได้ดีกว่ามาก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะความต้องการท่องเที่ยว และการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติเริ่มกลับมา ส่งผลให้ดิสนีย์เริ่มกลับมาทำกำไรจากสวนสนุกและรีสอร์ทได้มากขึ้น ถึงกระนั้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นดิสนีย์ยังถือว่าปรับตัวลดลง 28% เกือบครึ่งหนึ่งของบริษัทคู่แข่งคนสำคัญอย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ราคาปิดล่าสุดของหุ้นดิสนีย์คือ $110.29

เฉพาะในไตรมาสหนึ่ง กำไรที่ดิสนีย์ได้จากสวนสนุกคิดเป็น $2,450 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขติดลบในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และถ้าเทียบกับช่วงนั้นถือว่ารายได้ของดิสนีย์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกเหนือจากกำไรในส่วนนี้ สิ่งที่นักลงทุนอยากทราบคือรายได้จากดิสนีย์พลัส (Disney+) บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งของดิสนีย์ว่าจะมียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยเพียงใด ยอดสมาชิกของดิสนีย์พลัสจะเป็นอีกหนึ่งมาตรวัดการเติบโตของธุรกิจภาพยนตร์สตรีมมิ่ง ที่กำลังได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เริ่มเปลี่ยนเป็นการออกนอกบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติแล้ว

3. Rivian

บริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกและ SUV ไฟฟ้านาม Rivian (NASDAQ:RIVN) ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่ Amazon (NASDAQ:AMZN) จะรายงานผลกำไรไตรมาสที่ 1 ในวันพุธที่ 11 พฤษภาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาสนี้จะออกมาอยู่ที่ $133 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.41 RIVN Weekly TTM

หุ้นของบริษัท Rivian ปรับตัวลดลงอย่างหนักมาตั้งแต่เริ่มทำ IPO ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ล่าสุดราคาหุ้นของ Rivian ลงมาแล้วทั้งหมด $179 จากราคาเปิด $78 ลงมาเหลือ $28.79 สาเหตุที่หุ้นตัวนี้ถูกควบคุมโดยแนวโน้มขาลงเป็นเพราะความกังวลของนักลงทุน ที่มีต่อปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลน พวกเขาเชื่อว่าประเด็นนี้จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตของบริษัท 

อย่างไรก็ตาม ขาลงของหุ้น Rivian ทำให้มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มคุ้มค่า เมื่อเทียบกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 ซึ่งตอนนี้หุ้นขาลงที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ Rivian ในตอนนี้มี  Boeing (NYSE:BA), Starbucks (NASDAQ:SBUX) และ Caterpillar (NYSE:CAT) ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์จากสำนักข่าวบลูมเบิร์กเชื่อว่า Rivian อาจต้องใช้เงินอีกอย่างน้อย $14,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในอีกสองปีข้างหน้า และอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำกำไรมาชดเชยต้นทุนในตอนนี้ 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย